ในยุคที่ค่าครองชีพสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง การหาวิธีลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นจึงกลายเป็นเรื่องสำคัญอันดับต้น ๆ ของหลายครัวเรือน ค่าไฟคือหนึ่งในรายจ่ายหลักที่สามารถควบคุมได้ เพราะการประหยัดไฟ ไม่เพียงแต่จะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน แต่ยังเป็นการช่วยลดการใช้พลังงานและรักษาสิ่งแวดล้อมไปในตัว หลายคนอาจคิดว่าการประหยัดไฟเป็นเรื่องยุ่งยาก แต่ความจริงแล้วมีหลายวิธีที่สามารถทำได้ง่าย ๆ ในชีวิตประจำวัน บทความนี้ Origin Vertical ได้รวบรวม 15 วิธีการประหยัดไฟที่ทุกคนสามารถนำไปปรับใช้ได้จริง ตามมาดูกันดีกว่าว่า จะมีวิธีไหนบ้าง
รู้ทันค่าไฟสูง! สาเหตุหลักที่ทำให้บิลค่าไฟพุ่งสูง
ก่อนจะไปดูวิธีประหยัดไฟ เรามาทำความเข้าใจถึงสาเหตุที่ทำให้ค่าไฟพุ่งสูงกันก่อน เพื่อที่จะได้แก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุ โดยสาเหตุหลัก ๆ มักมาจากพฤติกรรมการใช้ไฟฟ้าและประสิทธิภาพของเครื่องใช้ไฟฟ้า ดังนี้
- การเปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าทิ้งไว้โดยไม่ใช้งาน สาเหตุคลาสสิกที่พบได้บ่อยที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการเปิดไฟทิ้งไว้ในห้องที่ไม่มีคนอยู่ หรือการไม่ถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้งาน
- เครื่องใช้ไฟฟ้าเก่าหรือเสื่อมสภาพ เครื่องใช้ไฟฟ้ารุ่นเก่ามักมีอัตราการกินไฟสูงกว่ารุ่นใหม่ และเมื่อใช้งานไปนาน ๆ ประสิทธิภาพอาจลดลง ทำให้ต้องใช้พลังงานมากขึ้นในการทำงาน
- การใช้งานเครื่องปรับอากาศอย่างหนัก ประเทศไทยมีอากาศร้อน ทำให้เครื่องปรับอากาศกลายเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่จำเป็น แต่การเปิดใช้งานเป็นเวลานานหรือตั้งอุณหภูมิต่ำเกินไปก็เป็นอีกตัวการหลักที่ทำให้ค่าไฟสูงขึ้นได้
- สภาพแวดล้อมและตัวบ้าน บ้านที่รับแสงแดดโดยตรงตลอดทั้งวัน หรือไม่มีการระบายอากาศที่ดี จะสะสมความร้อนไว้ภายใน ทำให้เครื่องปรับอากาศต้องทำงานหนักขึ้น
รวม 15 วิธีการประหยัดไฟในบ้านที่ทุกคนทำได้จริง

1. ใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5
ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 คือเครื่องหมายรับรองว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นนั้นผ่านเกณฑ์มาตรฐานการประหยัดพลังงาน ยิ่งมีดาวมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งแสดงถึงความสามารถในการประหยัดไฟที่มากขึ้น ดังนั้น ก่อนตัดสินใจซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าใหม่ทุกครั้ง ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีฉลากเบอร์ 5 ติดดาว เพื่อความคุ้มค่าในระยะยาว
2. เลือกใช้หลอดไฟ LED

หลอดไฟ LED (Light Emitting Diode) เป็นเทคโนโลยีที่ให้ความสว่างมากกว่า แต่ใช้พลังงานน้อยกว่าหลอดไส้หรือหลอดฟลูออเรสเซนต์ถึง 70 – 80% ทั้งยังมีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่า ดังนั้นการเปลี่ยนมาใช้หลอด LED ทั่วทั้งบ้านจึงเป็นวิธีประหยัดไฟที่เห็นผลได้ชัดเจน
3. ตั้งอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศให้เหมาะสม
อุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับเครื่องปรับอากาศ คือ 25 – 26 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นระดับที่ร่างกายรู้สึกสบายและไม่ทำให้เครื่องทำงานหนักจนเกินไป การลดอุณหภูมิลงทุก 1 องศา จะทำให้ค่าไฟเพิ่มขึ้นประมาณ 10% นอกจากนี้ การเปิดพัดลมช่วยกระจายความเย็น จะทำให้รู้สึกเย็นสบายขึ้นโดยไม่ต้องลดอุณหภูมิแอร์อีกด้วย
4. ปิดและถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าเมื่อไม่ใช้งาน

เครื่องใช้ไฟฟ้าหลายชนิด เช่น โทรทัศน์ คอมพิวเตอร์หรือที่ชาร์จโทรศัพท์มือถือ ยังคงใช้พลังงานอยู่แม้จะปิดเครื่องไปแล้ว (Standby Mode) การปิดสวิตช์และถอดปลั๊กทุกครั้งหลังใช้งาน จะช่วยตัดการใช้ไฟฟ้าที่ไม่จำเป็นได้อย่างสมบูรณ์
5. ตั้งตำแหน่งตู้เย็นให้ห่างจากผนัง
ตู้เย็นต้องการพื้นที่ในการระบายความร้อนที่แผงด้านหลัง ควรตั้งตู้เย็นให้ห่างจากผนังอย่างน้อย 15 เซนติเมตร เพื่อให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก ช่วยให้คอมเพรสเซอร์ไม่ต้องทำงานหนักและใช้พลังงานน้อยลงในการรักษาความเย็น
6. หลีกเลี่ยงการเปิดตู้เย็นบ่อย

ทุกครั้งที่เปิดประตูตู้เย็น ความเย็นจะไหลออกมาและความร้อนจากภายนอกจะเข้ามาแทนที่ ทำให้คอมเพรสเซอร์ต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อทำความเย็นกลับสู่ระดับที่ตั้งไว้ พยายามคิดล่วงหน้าว่าจะหยิบอะไรและเปิด-ปิดให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
7. เปิดม่านรับแสงแทนการเปิดไฟในช่วงกลางวัน
ใช้ประโยชน์จากแสงธรรมชาติให้มากที่สุด ในช่วงเวลากลางวัน ควรเปิดม่านในบริเวณห้องนั่งเล่นหรือห้องอื่น ๆ เพื่อให้แสงสว่างส่องเข้ามาในบ้าน ช่วยลดความจำเป็นในการเปิดไฟ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งวิธีง่าย ๆ ในการประหยัดไฟ
8. หมั่นทำความสะอาดฟิลเตอร์แอร์และพัดลม

ฝุ่นที่เกาะอยู่ตามแผ่นกรองอากาศของเครื่องปรับอากาศหรือใบพัดของพัดลม จะขัดขวางการไหลของอากาศ ทำให้เครื่องต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อส่งความเย็นหรือลมออกมา ควรทำความสะอาดฟิลเตอร์แอร์ทุก 2 – 4 สัปดาห์ และทำความสะอาดพัดลมเป็นประจำ
9. ตั้งเวลาเปิด-ปิดเครื่องปรับอากาศ
สำหรับคนที่มักจะเปิดแอร์นอน การตั้งเวลาปิดล่วงหน้าก่อนตื่นนอนประมาณ 1 – 2 ชั่วโมง จะช่วยประหยัดไฟได้มาก เพราะร่างกายยังคงรักษาความเย็นไว้ได้ระยะหนึ่ง หรืออาจใช้โหมด Sleep ที่จะค่อย ๆ เพิ่มอุณหภูมิขึ้นในช่วงกลางดึก
10. ติดตั้งม่านกันความร้อนหรือฟิล์มกรองแสง

การติดตั้งม่านกัน UV หรือฟิล์มกรองแสงที่หน้าต่าง จะช่วยลดปริมาณความร้อนจากแสงแดดที่เข้ามาในตัวบ้าน ทำให้บ้านเย็นลงและเครื่องปรับอากาศทำงานน้อยลง ถือเป็นส่วนหนึ่งของการตกแต่งคอนโดที่ช่วยประหยัดไฟได้อย่างมีประสิทธิภาพ
11. รีดผ้าครั้งละเยอะ ๆ
เตารีดเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใช้พลังงานสูงในการสร้างความร้อน การรวบรวมเสื้อผ้ามารีดในครั้งเดียว จะช่วยลดจำนวนครั้งในการเปิด-ปิดเตารีด ทำให้ประหยัดไฟได้มากกว่าการทยอยรีดทีละน้อย
12. บอกลาเครื่องใช้ไฟฟ้าเก่าที่กินไฟ
หากที่บ้านมีเครื่องใช้ไฟฟ้าที่อายุการใช้งานเกิน 10 ปี ถึงเวลาพิจารณาเปลี่ยนเป็นรุ่นใหม่ที่มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 แม้จะมีค่าใช้จ่ายเริ่มต้น แต่จะช่วยประหยัดค่าไฟในระยะยาวได้อย่างคุ้มค่า
13. ใช้เครื่องทำน้ำอุ่นเท่าที่จำเป็น
ในวันที่อากาศไม่หนาวจนเกินไป ลองปิดเครื่องทำน้ำอุ่นและอาบน้ำในอุณหภูมิปกติ หรือปรับลดระดับความร้อนลง เพราะเครื่องทำน้ำอุ่นเป็นอีกหนึ่งเครื่องใช้ไฟฟ้าที่กินไฟมาก
14. ใช้ระบบ Smart Home

เทคโนโลยี Smart Home ช่วยให้คุณสามารถควบคุมการเปิด-ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าผ่านสมาร์ตโฟนได้ ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน ช่วยป้องกันการลืมปิดไฟหรือเครื่องปรับอากาศ และยังสามารถตั้งเวลาการทำงานอัตโนมัติได้ ทำให้การใช้พลังงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น
15. ปลูกต้นไม้
การปลูกต้นไม้ในคอนโด หรือรอบบริเวณห้องช่วยให้คอนโดน่าอยู่ยิ่งขึ้นและยังช่วยลดอุณหภูมิโดยรอบ ทำให้ห้องเย็นลง นอกจากนี้ยังต้องคำนึงถึงทิศทางลม เพื่อให้ลมพัดผ่านเข้าสู่ตัวคอนโด ก็จะช่วยระบายอากาศได้ดีขึ้น โดยเฉพาะในคอนโดเพดานสูงที่มีพื้นที่ให้อากาศร้อนลอยตัวขึ้นด้านบนได้ดี
สรุปบทความ
วิธีการประหยัดไฟเป็นสิ่งที่ทุกคนสามารถเริ่มต้นทำได้ทันทีจากพฤติกรรมเล็ก ๆ น้อย ๆ ในชีวิตประจำวัน การเลือกใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่เหมาะสม การดูแลรักษาอุปกรณ์อย่างสม่ำเสมอ และการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้งานเพียงเล็กน้อย สามารถสร้างความแตกต่างให้กับบิลค่าไฟได้อย่างมหาศาล ลองนำ 15 วิธีการประหยัดไฟ เหล่านี้ไปปรับใช้ ไม่เพียงแต่จะช่วยลดตัวเลขในบิลค่าไฟ แต่ยังสร้างนิสัยการใช้พลังงานอย่างยั่งยืนอีกด้วย
ORIGIN VERTICAL คอนโดมิเนียมที่ตอบโจทย์ทุกการใช้ชีวิต ในแบบที่คุณต้องการ
ยกระดับการใช้ชีวิตในแบบที่เป็นคุณ ด้วยคอนโดมิเนียมดีไซน์ทันสมัยบนทำเลศักยภาพ เชื่อมต่อทุกจุดหมายได้สะดวก พร้อมพื้นที่ส่วนกลางที่ออกแบบมาเพื่อเติมเต็มไลฟ์สไตล์อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นการพักผ่อน ทำงานหรือใช้เวลากับตัวเอง ทุกฟังก์ชันถูกคิดมาเพื่อตอบโจทย์ชีวิตเมืองในทุกมิติ เพื่อให้ ”คุณ” ค้นพบความสุขแท้จริง
Origin… Creative Living For ALL
สำหรับใครที่กำลังมองหาโครงการที่มีความน่าเชื่อถือ มีคุณภาพและตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพ เราขอแนะนำคอนโดมิเนียมจาก Origin โดยสามารถเข้าไปดูข้อมูลโครงการ รวมถึงทำเลที่ตั้งของโครงการต่าง ๆ ได้ที่ https://origin.co.th/โครงการพร้อมอยู่
คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับการประหยัดไฟ
เปิด-ปิดแอร์บ่อย ๆ กับเปิดค้างไว้ทั้งวัน แบบไหนเปลืองไฟกว่ากัน?
การเปิดแอร์ค้างไว้ทั้งวันเปลืองไฟกว่าอย่างแน่นอน เพราะคอมเพรสเซอร์ของแอร์จะทำงานหนักที่สุดในช่วงเริ่มเปิดเครื่องเพื่อลดอุณหภูมิห้องให้ถึงระดับที่ตั้งไว้ หากเปิด-ปิดบ่อย ๆ ในช่วงเวลาสั้น ๆ เช่น ออกจากห้องไม่เกิน 1 ชั่วโมง อาจทำให้สิ้นเปลืองพลังงานมากกว่าการเปิดทิ้งไว้ แต่หากเป็นการเปิดทิ้งไว้ทั้งวันโดยไม่มีคนอยู่ การปิดแอร์ย่อมประหยัดไฟได้มากกว่า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเบอร์ 5 แบบมีดาวกับไม่มีดาว ต่างกันอย่างไร?
ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 แบบมีดาว แสดงถึงประสิทธิภาพการประหยัดพลังงานที่สูงกว่าแบบไม่มีดาว โดยทุก ๆ 1 ดาวที่เพิ่มขึ้น หมายถึงค่าประสิทธิภาพที่สูงขึ้นประมาณ 10% ดังนั้น เครื่องใช้ไฟฟ้าเบอร์ 5 แบบ 3 ดาว จะประหยัดไฟได้มากกว่าแบบไม่มีดาว
เสียบปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าทิ้งไว้ กินไฟจริงหรือไม่?
จริง เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีระบบรีโมตคอนโทรลหรือมีหน้าจอแสดงผล เช่น โทรทัศน์ ไมโครเวฟหรือเครื่องปรับอากาศ จะมีกระแสไฟฟ้าไหลเวียนเพื่อหล่อเลี้ยงวงจรในโหมดสแตนด์บาย (Standby Mode) อยู่ตลอดเวลา แม้จะไม่ได้เปิดใช้งานก็ตาม ซึ่งการใช้พลังงานในส่วนนี้จะถูกรวมเข้าไปในบิลค่าไฟในแต่ละเดือน การถอดปลั๊กจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการประหยัดไฟ