คอนโดมิเนียมในปัจจุบันนอกจากทำเลเด่น คอนโดพร้อมอยู่ เดินทางสะดวกสบาย ดีไซน์สวย ฟังก์ชันพื้นฐานครบพร้อมอยู่อาศัย สิ่งหนึ่งที่ช่วยสร้างความสุขและความสะดวกสบายในการอยู่อาศัยของคนรุ่นใหม่ยุคดิจิทัลคือ เทคโนโลยีสมาร์ทโฮม ไม่ว่าจะเป็นระบบรักษาความปลอดภัย ควบคุมแสงสว่าง ฯลฯ ที่เพียงปลายนิ้วสัมผัสกับสมาร์ทโฟนก็ช่วยให้การใช้ชีวิตง่ายขึ้นแล้ว มีอะไรบ้างมาดูกัน
เทคโนโลยีสมาร์ทโฮม คืออะไร?
สมาร์ทโฮม (Smart Home) คือ เทคโนโลยีสมัยใหม่ที่เป็นการนำอุปกรณ์ที่ส่งสัญญาณผ่านอินเทอร์เน็ตได้หรือที่เรียกว่า IoT (Internet of Things) มาทำงานร่วมกับระบบซอฟต์แวร์บนสมาร์ทโฟนและเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ภายในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นแอร์ สวิตช์ไฟ ทีวี ฯลฯ โดยสั่งการผ่านการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตและแอปพลิเคชันในสมาร์ทโฟน ใช้เสียงพูด (Voice Command) ในการเปิด-ปิด หรือควบคุมการทำงานของสิ่งของ ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ทั้งภายในบ้านและนอกบ้าน เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยมีความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตมากยิ่งขึ้น รวมถึงยังช่วยเรื่องความปลอดภัย ประหยัดเวลาและค่าไฟฟ้าอีกด้วย
5 เทคโนโลยีสมาร์ทโฮมมีอะไรบ้าง
1. Digital Door Lock
ระบบกลอนประตูอิเล็กทรอนิกส์ที่ช่วยเสริมความปลอดภัยให้กับห้องคอนโด ด้วยฟังก์ชันที่ทันสมัยอย่างการปลดล็อกประตูผ่านระบบรหัสผ่าน การสแกนลายนิ้วมือหรือระบบคีย์การ์ด และยังมีระบบการแจ้งเตือนหากมีคนพยายามเข้าห้อง รวมถึงมีระบบป้องกันการสุ่มรหัสผ่านประตูที่จะช่วยให้อุ่นใจมากขึ้นเมื่อพักผ่อนอยู่ในห้องหรือออกไปข้างนอก นอกจากนี้ระบบ Digital Door Lock ยังตอบโจทย์ชีวิตของคนยุคใหม่และช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตให้ง่ายขึ้น ด้วยการส่งสัญญาณการทำงานเพื่อเตรียมความพร้อมของเครื่องปรับอากาศและระบบไฟ ก่อนที่คุณจะเข้าไปในห้องได้อีกด้วย มากกว่านั้นในปัจจุบัน Digital Door Lock ยังสามารถปลดล็อกรหัสผ่าน ผ่านทางสมาร์ทโฟนได้จากแอปพลิเคชัน ทำให้หมดปัญหาเรื่องลืมคีย์การ์ด ลืมรหัสผ่าน หรือประตูล็อคเองโดยไม่ได้ตั้งใจอีกด้วย
2. Automatic Curtain
Automatic Curtain หรือที่เราเรียกกันว่า “ระบบผ้าม่านอัจฉริยะ หรือผ้าม่านอัตโนมัติ” เป็นสมาร์ทโฮมที่เหมาะกับห้องคอนโดในปัจจุบัน เพราะไม่เพียงแต่ให้ความสะดวกสบายในการใช้งานที่เพียงกดปุ่มเปิด – ปิดผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนหรือแท็ปเล็ตที่สามารถใช้ได้ทั้งระบบ IOS และ Android สั่งการด้วยเสียงทั้ง Google Assistant, Alexa, Siri แถมยังตั้งเวลาเปิด – ปิดล่วงหน้าได้ตามเวลาที่ต้องการ ด้วยระบบรางมอเตอร์ที่มีคุณภาพสูงและลื่นไหล ทำให้ไม่เกิดเสียงดังรบกวนขณะพักผ่อน ถือเป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีสมาร์ทโฮมที่จะช่วยสร้างความสุขในการพักผ่อนที่บอกเลยว่าคอนโดยุคใหม่ต้องมี!
3. Lightning Dimmer
เทคโนโลยีสมาร์ทโฮมอันดับต่อมา คือ ระบบแสงอัจฉริยะ ที่รวมเอาเทคโนโลยีไฟฟ้าอัจฉริยะและการใช้ระบบลดแสงอัตโนมัติ (Dimmer System) โดยระบบจะทำการเปิดไฟหรือหรี่ไฟลงเองอัตโนมัติเพื่อเป็นการลดใช้พลังงาน รวมถึงสร้างบรรยากาศภายในห้องให้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีการใช้เซนเซอร์ Daylight ที่ช่วยตรวจจับความเข้มข้นของแสงธรรมชาติ เพื่อตั้งค่าเปิด – ปิด หรือหรี่ไฟอัตโนมัติ ซึ่งระบบแสงอัจฉริยะนี้สามารถควบคุมผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนได้ ทำให้สะดวกสบายในการใช้ชีวิตและยังช่วยป้องกันการเกิดไฟฟ้าลัดวงจรตอนที่ไม่อยู่ห้องได้อีกด้วย
4. Smart Sensor
ความปลอดภัยภายในห้องก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญเช่นเดียวกัน หนึ่งในสมาร์ทโฮมยุคใหม่ที่เพิ่มเข้ามาสำหรับชาวคอนโดก็คือ Smart Sensor ที่จะคอยตรวจจับความเคลื่อนไหวของเรา ด้วยโมชันเซนเซอร์ (Motion Sensor) ที่นอกจากจะช่วยอำนวยความสะดวกแล้ว ยังทำให้การใช้ชีวิตง่ายขึ้นด้วย เช่น การเดินไปเข้าห้องน้ำกลางดึกโดยที่ไม่ต้องไปเปิดสวิตช์ไฟ ซึ่งแน่นอนว่าไฟจะติดก็ต่อเมื่อมีการเคลื่อนไหวเท่านั้น Smart Sensor จึงเป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่ช่วยประหยัดไฟให้เราและยังช่วยเรื่องความปลอดภัยด้วย เพราะเราจะรับรู้ได้ว่ามีใครเข้ามาหรือออกไปจากห้อง จากการเดินผ่านตัวโมชันเซนเซอร์นี้นั่นเอง
5. Smart IR Air Conditioner
ระบบเปิด – ปิดแอร์อัจฉริยะ ที่ควบคุมการใช้งานผ่านสมาร์ทโฟนได้ ทั้งควบคุมอุณหภูมิได้ตามต้องการ และเปิดแอร์ได้แม้ไม่ได้อยู่ในห้องหรือกดเปิดจากรีโมทคอนโทรล ซึ่งช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตของคนยุคใหม่ได้เป็นอย่างดี เพราะสามารถใช้คำสั่งในการเปิดแอร์ผ่านทางสมาร์ทโฟน เพื่อเตรียมความพร้อมให้ห้องมีความเย็นก่อนที่จะกลับถึงห้องได้ ถ้าลืมปิดก็หมดกังวลเพราะแค่สั่งผ่านสมาร์ทโฟนก็เรียบร้อย
ทั้งหมดนี้คือ 5 เทคโนโลยีสมาร์ทโฮม สุดล้ำที่มีอยู่ในห้องคอนโดยุคใหม่ แค่ใช้งานผ่านปลายนิ้วบนสมาร์ทโฟนก็ช่วยให้การใช้ชีวิตสะดวกสบายและง่ายขึ้น เห็นความสะดวกสบายแบบนี้แล้ว ก็อย่ารอช้าเปลี่ยนห้องคอนโดให้สะดวกสบายขึ้นด้วยอุปกรณ์สมาร์ทโฮมได้เลย หรือใครที่ใฝ่ฝันอยากมีห้องคอนโดที่มีระบบสมาร์ทโฮมแบบครบครันเป็นของตนเอง ก็
สามารถเข้าไปดูรายละเอียดโครงการต่างๆ ของ Origin ได้ที่นี่