9 วิธีกำจัดโคลนและทำความสะอาดบ้านหลังน้ำท่วม

ทำความสะอาดบ้านหลังน้ำท่วม

เมื่อวิกฤตการณ์น้ำลดลง สิ่งที่ทิ้งไว้เป็นฝันร้ายสำหรับเจ้าของบ้านคือคราบสกปรกและดินโคลนมหาศาลที่มาพร้อมกับกระแสน้ำ หากปล่อยไว้นานจนแห้งกรัง การฟื้นฟูบ้านจะกลายเป็นเรื่องยากและส่งผลเสียต่อสุขอนามัยในระยะยาว บทความนี้ Origin Vertical เราได้รวบรวมวิธีจัดการกับคราบเปื้อนโคลน และฟื้นฟูบ้านหลังน้ำท่วมอย่างเป็นขั้นตอน เพื่อเปลี่ยนบ้านที่พังให้กลับมาน่าอยู่และปลอดภัยอีกครั้งมาฝากกัน  

ทำไมต้องทำความสะอาดบ้านหลังน้ำท่วม 

การทำความสะอาดทันทีที่น้ำลดเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะน้ำโคลน ไม่ได้มีแค่ดิน แต่ยังผสมปนเปมาด้วยเชื้อโรค แบคทีเรีย สารเคมีและสิ่งปฏิกูลต่างๆ หากปล่อยให้คราบเหล่านี้เกาะติดผนังหรือพื้นเป็นเวลานาน จะกลายเป็นแหล่งสะสมของเชื้อราและทำลายโครงสร้างวัสดุภายในบ้านจนเสียหายถาวร ควรรีบจัดการตั้งแต่ตอนที่โคลนยังมีความชื้นจะช่วยประหยัดแรงและเวลาได้มากกว่า  

อุปกรณ์ที่ต้องเตรียมสำหรับกำจัดโคลนหลังน้ำท่วม 

ก่อนเริ่มลงมือ ควรเตรียมอุปกรณ์ป้องกันตัวเองและเครื่องมือทำความสะอาดให้พร้อม ดังนี้ 

  • ชุดป้องกัน รองเท้าบูทยาง ถุงมือยางหนา หน้ากากอนามัยและแว่นตานิรภัย 
  • อุปกรณ์ตักโคลน พลั่วตักดิน จอบหรือที่รีดน้ำ (Squeegee) 
  • อุปกรณ์ทำความสะอาด แปรงขัดพื้นขนแข็ง ถังน้ำ ฟองน้ำ 
  • น้ำยาทำความสะอาด ผงซักฟอก น้ำยาฆ่าเชื้อหรือน้ำยาฟอกขาว (Bleach) 
  • ตัวช่วยระบายอากาศ พัดลมขนาดใหญ่ หรือเครื่องดูดความชื้น

9 ขั้นตอนการกำจัดโคลนและน้ำโคลนออกจากบ้านหลังน้ำท่วม 

การจัดการกับบ้านหลังน้ำท่วมต้องทำอย่างเป็นระบบ เพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพสูงสุด โดยสามารถทำตามขั้นตอนที่เรานำมาฝากกันได้ ดังนี้  

ขั้นตอนการน้ำโคลน

ตรวจสอบความปลอดภัย 

เริ่มต้นกันที่ขั้นตอนแรก คือการตรวจสอบความปลอดภัยบริเวณตัวบ้าน ก่อนก้าวเท้าเข้าบ้าน ต้องมั่นใจว่าโครงสร้างบ้านยังมั่นคง ไม่มีรอยร้าวที่เสี่ยงต่อการถล่ม และที่สำคัญที่สุดคือต้องตัดกระแสไฟฟ้าทั้งหมดเพื่อป้องกันไฟฟ้ารั่วซัม รวมถึงตรวจสอบแนวท่อก๊าซหุงต้มว่าไม่มีจุดรั่วไหล ทั้งนี้ก็เพื่อความปลอดภัย 

เก็บขยะและสิ่งของที่เสียหายออกจากพื้นที่ 

จากนั้นให้เริ่มจากการคัดแยกและนำสิ่งของที่ได้รับความเสียหายหนักจากน้ำท่วมออกจากพื้นที่ เช่น พรม ฟูกที่นอนหรือเฟอร์นิเจอร์ที่ดูดซับน้ำจนบวมและไม่สามารถซ่อมแซมได้ ยิ่งนำของเหล่านี้ออกไปได้เร็วเท่าไหร่ ก็จะช่วยลดแหล่งสะสมเชื้อโรค กลิ่นอับและคราบเปื้อนโคลนได้ พร้อมทั้งเปิดพื้นที่ให้สามารถทำความสะอาดพื้นและกำจัดโคลนภายในบ้านได้อย่างทั่วถึงและมีประสิทธิภาพมากขึ้น 

กำจัดน้ำโคลนออกจากบ้าน 

ควรเร่งกำจัดน้ำโคลนออกจากบ้านทันทีในขณะที่โคลนยังไม่แห้ง โดยใช้พลั่ว ที่ตักหรืออุปกรณ์รีดน้ำช่วยไล่น้ำและโคลนออกจากพื้นที่ให้มากที่สุด การปล่อยให้โคลนแห้งจะทำให้คราบแข็งตัวและยึดติดกับพื้นผิวแน่นขึ้น ส่งผลให้การทำความสะอาดยาก ใช้เวลานานและอาจทำให้พื้นหรือผนังเกิดความเสียหายมากกว่าเดิม

เปิดประตูและหน้าต่างระบายอากาศ 

ความชื้นที่สะสมอยู่ภายในบ้านหลังน้ำลดเป็นปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นให้เกิดเชื้อราและกลิ่นอับ ควรเปิดประตูและหน้าต่างทุกบาน เพราะจะช่วยให้อากาศถ่ายเท ลดความชื้นที่ฝังอยู่ตามพื้น เพราะถ้าหากปล่อยให้บ้านอับชื้นเป็นเวลานาน อาจทำให้วัสดุภายในบ้านเสื่อมสภาพและเกิดปัญหาสุขภาพตามมาได้  

ล้างและทำความสะอาดพื้นและผนัง 

หลังจากกำจัดโคลนออกไปแล้ว ให้ใช้น้ำสะอาดฉีดล้างคราบสกปรกที่ยังติดอยู่บนพื้นและผนัง จากนั้นใช้แปรงขนแข็งร่วมกับน้ำยาทำความสะอาดขัดถูบริเวณที่มีคราบฝังแน่น โดยควรเริ่มทำความสะอาดจากผนังด้านบนไล่ลงมาด้านล่าง เพื่อลดการไหลย้อนของคราบเปื้อนโคลน และช่วยให้การทำความสะอาดเป็นไปอย่างทั่วถึงมากขึ้น

ทำความสะอาดซ้ำอีกรอบ 

เมื่อขจัดคราบโคลนออกเรียบร้อยแล้ว ควรล้างทำความสะอาดพื้นและผนังซ้ำอีกครั้งด้วยน้ำสะอาด เพื่อชะล้างเศษดิน ทรายและสิ่งสกปรกที่อาจหลงเหลืออยู่ตามร่องกระเบื้อง ขอบผนังและซอกมุมต่าง ๆ ขั้นตอนนี้จะช่วยลดการสะสมของคราบฝังลึก และเตรียมพื้นผิวให้พร้อมสำหรับการฆ่าเชื้อในขั้นตอนถัดไป 

ฆ่าเชื้อและป้องกันเชื้อรา 

หลังจากทำความสะอาดพื้นผิวเรียบร้อยแล้ว ควรรีบฆ่าเชื้อเพื่อความปลอดภัย โดยใช้น้ำยาฆ่าเชื้อ เช่น น้ำส้มสายชูที่มีความเข้มข้น 5 – 7% แอลกอฮอล์ความเข้มข้น 60 – 90% หรือน้ำยาฆ่าเชื้อโรค (Sodium Hypochlorites) ในอัตราส่วน 1:10 ตามที่กรมอนามัย กระทรวงสาธารณะสุขแนะนำ จากนั้นฉีดพ่นหรือเช็ดถูให้ทั่วบริเวณที่เคยมีน้ำท่วมขัง ขั้นตอนนี้จะช่วยลดการสะสมของเชื้อแบคทีเรีย กลิ่นอับและยับยั้งการเกิดเชื้อราที่อาจส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาว 

ทำให้บ้านแห้ง 

หลังจากฆ่าเชื้อแล้ว ควรเร่งลดความชื้นภายในบ้านให้เร็วที่สุด โดยใช้พัดลมเปิดเป่าในจุดต่าง ๆ ควบคู่กับเครื่องดูดความชื้น เพื่อดึงความชื้นที่สะสมอยู่ในผนัง พื้นและฝ้าเพดานออกมา หากปล่อยให้บ้านชื้นเป็นเวลานาน อาจทำให้วัสดุเสื่อมสภาพ สีหลุดลอกหรือเกิดปัญหาเชื้อรา ซึ่งส่งผลต่อการซ่อมแซมหรือปรับปรุงบ้านในอนาคต 

ตรวจเช็กอีกครั้งก่อนเข้าอยู่ 

เมื่อบ้านแห้งเรียบร้อยแล้ว ควรตรวจสอบสภาพโดยรอบอีกครั้งอย่างละเอียด ทั้งรอยแตกร้าวของผนังและพื้น ระบบไฟฟ้า ระบบประปา รวมถึงกลิ่นอับภายในบ้าน หากพบความผิดปกติหรือจุดเสี่ยงใด ๆ ควรให้ช่างผู้เชี่ยวชาญเข้ามาตรวจสอบและแก้ไขก่อนกลับเข้าอยู่อาศัย เพื่อความปลอดภัยในการใช้ชีวิต  

อยู่คอนโดสบายใจ ปลอดภัย ไม่ต้องกังวลเรื่องน้ำท่วม

สำหรับใครที่เหนื่อยล้ากับการต้องมารับมือวิกฤตการณ์น้ำท่วมกรุงเทพฯ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า การเปลี่ยนรูปแบบที่อยู่อาศัยมาเป็นการซื้อคอนโดเพื่ออยู่อาศัย ถือเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์ เพราะนอกจากจะตั้งอยู่บนพื้นที่ถมสูงและมีระบบระบายอากาศที่ออกแบบมาอย่างดีแล้ว ยังมีมาตรการป้องกันน้ำที่เข้มงวด ทำให้คุณไม่ต้องเผชิญกับปัญหาคราบเปื้อนโคลน หรือความเสียหายของทรัพย์สินชั้นล่างเหมือนบ้านแนวราบ ช่วยให้ใช้ชีวิตได้อย่างไร้กังวลแม้ในช่วงฤดูฝน 

โดยเฉพาะโครงการคอนโดจาก Origin Vertical ที่เราให้ความสำคัญกับการเลือกทำเลศักยภาพและการออกแบบโครงสร้างที่รองรับสถานการณ์ที่ไม่คาดฝัน ด้วยระบบการจัดการพื้นที่ส่วนกลางที่ทันสมัยและทีมบริหารจัดการมืออาชีพ ทำให้ผู้อยู่อาศัยมั่นใจได้ว่าแม้ในวันที่ฝนตกหนัก ทรัพย์สินและรถยนต์ของคุณจะถูกดูแลอย่างปลอดภัยในพื้นที่ยกระดับสูง สำหรับใครที่มองหาความมั่นคงในระยะยาว การวางแผนกู้ซื้อคอนโดกับ Origin Vertical จึงเป็นการลงทุนเพื่อคุณภาพชีวิตที่ไม่ต้องเสี่ยงกับอุทกภัยอีกต่อไป  

อยู่คอนโดสบายใจ

ภาพจากโครงการ Origin Place Ramkhamhaeng 153 

การทำความสะอาดบ้านหลังน้ำท่วมเป็นขั้นตอนสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะคราบโคลนและสิ่งปนเปื้อนที่มากับน้ำสามารถส่งผลต่อทั้งโครงสร้างบ้านและสุขภาพของผู้อยู่อาศัย การจัดการน้ำโคลน คราบสกปรกและการฆ่าเชื้ออย่างถูกวิธี จะช่วยให้บ้านกลับมาสะอาด ปลอดภัยและพร้อมสำหรับการอยู่อาศัยอีกครั้ง 

ในขณะเดียวกัน หากต้องการลดความกังวลเรื่องน้ำท่วมซ้ำในอนาคต การเลือกอยู่อาศัยในคอนโดมิเนียมก็ถือเป็นอีกทางเลือกที่ตอบโจทย์อย่างมาก เนื่องจากคอนโดส่วนใหญ่ออกแบบให้พื้นที่พักอาศัยอยู่เหนือระดับน้ำท่วม มีระบบระบายน้ำที่ได้มาตรฐาน และมีการวางผังอาคารที่ช่วยลดความเสี่ยงจากน้ำขัง นอกจากนี้ ยังมีระบบรักษาความปลอดภัย การดูแลส่วนกลางและทีมช่างที่พร้อมเข้าจัดการปัญหาเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน ทำให้ผู้อยู่อาศัยไม่ต้องรับภาระดูแลทุกอย่างด้วยตนเองเหมือนบ้านแนวราบ

ORIGIN VERTICAL คอนโดมิเนียมที่ตอบโจทย์ทุกการใช้ชีวิต ในแบบที่คุณต้องการ 

ยกระดับการใช้ชีวิตในแบบที่เป็นคุณ ด้วยคอนโดมิเนียมดีไซน์ทันสมัยบนทำเลศักยภาพ เชื่อมต่อทุกจุดหมายได้สะดวก พร้อมพื้นที่ส่วนกลางที่ออกแบบมาเพื่อเติมเต็มไลฟ์สไตล์อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นการพักผ่อน ทำงานหรือใช้เวลากับตัวเอง ทุกฟังก์ชันถูกคิดมาเพื่อตอบโจทย์ชีวิตเมืองในทุกมิติ เพื่อให้ ”คุณ” ค้นพบความสุขแท้จริง 

Origin… Creative Living For ALL

สำหรับใครที่กำลังมองหาโครงการที่มีความน่าเชื่อถือ มีคุณภาพและตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพ เราขอแนะนำคอนโดมิเนียมจาก Origin โดยสามารถเข้าไปดูข้อมูลโครงการ รวมถึงทำเลที่ตั้งของโครงการต่าง ๆ ได้ที่ https://origin.co.th/โครงการพร้อมอยู่   

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

บ้านหลังน้ำท่วม สามารถอยู่ได้เลยหลังทำความสะอาดไหม?

ยังไม่ควรอยู่ทันที ควรทิ้งให้บ้านแห้งสนิทอย่างน้อย 1 – 2 สัปดาห์ และต้องมั่นใจว่าระบบไฟฟ้าและน้ำประปาได้รับการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญแล้วว่าปลอดภัย 

โคลนที่มากับน้ำท่วมมักปนเปื้อนเชื้อโรค เช่น โรคฉี่หนู โรคทางเดินอาหารและเชื้อราที่อาจทำให้เกิดโรคระบบทางเดินหายใจหรือผื่นคันตามผิวหนังได้ 

เพราะการล้างด้วยน้ำเปล่าไม่สามารถกำจัดเชื้อแบคทีเรียและสปอร์ของเชื้อราที่ฝังตัวอยู่ในวัสดุที่มีรูพรุนได้ การใช้น้ำยาฆ่าเชื้อจึงจำเป็นเพื่อสุขอนามัยที่ดีในระยะยาว

แท็กที่เกี่ยวข้อง