ลงทุนคอนโด ศรีราชา ศูนย์กลางเศรษฐกิจ EEC
สมดุลแห่งการทำงาน-พักผ่อน
ลงทุนคอนโด ศรีราชา – EEC ไม่ใช่แค่การสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐานเพิ่ม แต่เป็นโครงการที่จะปฏิรูปประเทศไทย อย่างที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน เป็นความชัดเจนในการสร้างมูลค่าเพิ่มอย่างมหาศาลในอีก 3-5 ปีข้างหน้า
ช่วงเวลาหลายสิบปีที่ กรุงเทพฯ ได้กลายเป็น “เมืองโตเดี่ยว” จากการลงทุนในสาธารณูปโภคขึ้นพื้นฐาน และเศรษฐกิจส่วนใหญ่ ที่กระจุกตัวอยู่ที่นี่ การพัฒนาที่ขาดสมดุลระหว่างกรุงเทพฯ หัวเมืองใหญ่ และเมืองรอง เป็นสาเหตุหลักของความเหลื่อมล้ำทางรายได้ เศรษฐกิจ และสังคม
นั่นจึงเป็นที่มาของแนวคิดการสร้างเมืองใหม่ในหลายพื้นที่ หนึ่งในนั้นคือ EEC หรือโครงการระเบียงเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก เพื่อพัฒนาพื้นที่ภาคตะวันออก 3 จังหวัด (ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง) ผ่านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ตั้งแต่รถไฟความเร็วสูง (กรุงเทพ-ระยอง) รถไฟทางคู่ (มาบตะพุด) ทางด่วนมอเตอร์เวย์ (มาบตะพุด) สนามบินนานาชาติอู่ตะเภา ท่าเรือน้ำลึกแหลมฉบัง และท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตะพุด
ทั้งหมดนี้ ไม่ได้เป็นเพียงโครงการสร้างระบบขนส่งมวลชนเป็นอย่างๆ แบบที่เราคุ้นเคยในกรุงเทพฯ แต่เป็นรูปแบบการพัฒนารอบด้าน เพื่อสร้างเมืองใหม่ในภาคตะวันออกอย่างเป็นระบบ เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ เมืองรอง สามารถพัฒนาจนมีความทัดเทียมกรุงเทพฯ อย่างจริงจัง ครอบคลุมพื้นที่เกือบทั้งภาคตะวันออก วงเงินลงทุนกว่า 1.5 ล้านล้านบาท พื้นที่ที่มีความใหญ่ระดับนี้ จึงจำเป็นต้องมีศูนย์กลาง โดยจากรายงาน และงานวิจัยหลายฉบับ เห็นตรงกันว่า “ศรีราชา” คือเมืองที่มีความเหมาะสมที่สุด ในการเป็นศูนย์กลางของ EEC
ด้วยศักยภาพพื้นที่ที่มีแผนการพัฒนาขนาดใหญ่อย่างเป็นระบบของ EEC ศรีราชาจึงเป็นเมืองที่เหมาะแก่การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในตอนนี้ ไม่ว่าจะเป็นขนาดเล็กอย่าง การลงทุนคอนโดปล่อยเช่า หรือการซื้อที่ดินเพื่อพัฒนาโครงการใหม่ๆ
ทำเลที่อยู่กึ่งกลาง EEC
ถ้าดูจากแผนผังของโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูง เชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง, สุวรรณภูมิ, อู่ตะเพา) จะพบว่า ศรีราชา เป็นเมืองที่อยู่กึ่งกลางของเส้นทางรถไฟฟ้าช่วงระหว่างเมือง ซึ่งมีระยะทาง 160 ก.ม. จำนวน 5 สถานี ด้วยรถไฟวิ่งได้เร็วสุดถึง 250 กม./ชม. ทำให้คนที่พักในศรีราชา สามารถเดินทางไปยังเมืองต่างๆ ใน EEC ด้วยเวลาที่สั้นที่สุด เมื่อเทียบกับคนที่พักอาศัยในเมืองอื่น
ด้านภาพรวมการเดินทาง รถไฟฟ้าสายนี้ สามารถเดินทางจากต้นสายถึงปลายสาย สนามบินดอนเมือง สู่สนามบินอู่ตะเภา ระยะทางกว่า 220 ก.ม. โดยใช้เวลาเพียง 60 นาที สำหรับเที่ยวด่วนพิเศษ นั่นหมายถึง ผู้ที่อาศัยในศรีราชา จะสามารถเดินทางไปยังสถานีรถไฟความเร็วสูง ตามหัวเมือง หรือสถานที่สำคัญใน EEC ภายในเวลา 15-30 นาที
ศูนย์กลางการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ
EEC ได้วางยุทธศาสตร์ ให้ทั้งฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง มีจุดเด่นด้านการผลิตสินค้าที่แตกต่างกัน แต่ท้ายที่สุดแล้ว ถนนทุกสายแห่งการส่งออก จะต้องมุ่งหน้ามาที่ ศรีราชา เพราะเป็นที่ตั้งของท่าเรือแหลมฉบัง ซึ่งเป็นศูนย์กลางที่เชื่อมต่อสินค้าที่ถูกผลิตขึ้นใน EEC ไปยังประเทศอื่นทั่วโลก โดยโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะ 3 กับวงเงินการลงทุนกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (เทียบกับท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตะพุด ที่มีวงเงินการลงทุนเพียง 290 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถเพื่อรองรับการขนส่งทางทะเลที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต โดยเฉพาะ หลังจากการพัฒนา EEC เสร็จสมบูรณ์
สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน
ด้วยทำเลที่มีความเป็นศูนย์กลางของภาคตะวันออกตั้งแต่ต้น ประกอบกับจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนแตะ 293,229 คนในปี 2560 ศรีราชา จึงเป็นเมืองที่รวบรวมสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครัน เหมาะสำหรับการพักอาศัย ไม่ว่าจะเป็น ศูนย์การค้า (โรบินสัน ศรีราชา, ฮาเบอร์มอลล์ แหลมฉบัง) โรงเรียน (รร. อัสสัมชัญศรีราชา, รร. เซนต์ปอลล์คอนแวนต์, รร. ดาราสมุทร, รร. สวนกุหลาบวิทยาลัย วิทยาเขตชลบุรี) มหาวิทยาลัย (ม.เกษตรศาสตร์ วิทยาเขตศรีราชา, ม.เทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตบางพระ) และโรงพยาบาล (รพ. สมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา, รพ. พญาไท ศรีราชา, รพ. สมิติเวช ศรีราชา) รวมทั้งร้านอาหาร คาเฟ่ ตลาดนัดหลายแห่ง รองรับทั้งผู้พักอาศัยชาวไทย และชาวญี่ปุ่น สอดคล้องกับยุทธศาสตร์เบื่องต้นของโครงการ EEC ที่วางเมืองศรีราชา ให้เป็นเมืองแห่งความสมดุลด้านที่พักอาศัยและการทำงาน
ลงทุนคอนโด ศรีราชา รองรับ EEC และการขยายตัวของเมือง
ความเป็นเมืองแห่งอุตสาหกรรม และเมืองแห่งไลฟ์สไตล์ ทำให้ศรีราชา มีความต้องการเช่าที่พักอาศัยสูงขึ้น จากกลุ่มผู้บริหารชาวญี่ปุ่น หรือกลุ่มพนักงานระดับกลางที่ทำงานในนิคมอุตสาหกรรมและบริษัทด้านพลังงานในพื้นที่ ข่าวดีคือ ศรีราชา เป็นเมืองที่อยู่ระหว่างการพัฒนา ซึ่งโครงการ Mega Project อย่างรถไฟความเร็วสูง ท่าเรือแหลมฉบังระยะ 3 และสนามบินอู่ตะเพา จะเสร็จสมบูรณ์ในอีก 3-5 ปีข้างหน้า ทำให้ราคาอสังหาริมทรัพย์ยังไม่สูงนัก และมีโอกาสเติบโตอีกมหาศาล เมื่อเทียบกับในกรุงเทพฯ โดยคอนโดหรู ทำเลติดถนนใหญ่ที่นี่ มีราคาเฉลี่ยเพียง 80,000 บาทต่อตารางเมตร (ราคาเท่ากับคอนโดกรุงเทพฯ ระดับปานกลาง ในทำเลเป็นรอง) ต่างจากคอนโดหรู ในย่าน Super Prime หรือ CBD ของกรุงเทพฯ อย่างสุขุมวิทตอนต้น พร้อมพงษ์ ทองหล่อ ที่มีราคาเฉลี่ยกว่า 300,000 บาทต่อตารางเมตรขึ้นไป
ในขณะที่ภาครัฐลงทุนพัฒนาแหล่งงาน โครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งจะดึงดูดผู้คน และการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมเข้ามา ภาคเอกชนจึงต้องพัฒนาอสังหาฯ เพื่อการพาณิชย์ และพักอาศัย สำหรับรองรับจำนวนคนที่มากขึ้น และการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไป
Origin Property เป็นผู้พัฒนาเจ้าแรกๆ ที่เล็งเห็นศักยภาพของศรีราชา และเริ่มพัฒนาโครงการขนาดใหญ่ ที่ปกติจะมีให้เห็นเฉพาะในกรุงเทพฯ เริ่มจาก “Origin District” โครงการ Mixed use ติดถนนสุขุมวิท ตรงข้าม ม.เกษตร ศรีราชา ซึ่งเป็นทำเลยุทธศาสตร์ ใกล้ศูนย์กลางด้านการศึกษา ตั้งอยู่ในระยะที่เหมาะสมจากแหล่งอุตสาหกรรม และแหล่งงานขนาดใหญ่ในพื้นที่ ภายในโครงการประกอบด้วยคอนโดมิเนียม 2 โครงการใหญ่ โรงแรม Holiday Inn ที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง (ข้อมูล ณ Q4 ปี 2561) ศูนย์การค้า Portobello Mall ด้านหน้า ที่มีทั้งร้านอาหาร คาเฟ่ ร้านสะดวกซื้อ คลีนิค ฯลฯ ตอบโจทย์ชาวศรีราชาในพื้นที่ และนักศึกษา ม.เกษตร ศรีราชา
สำหรับคนที่มองหาคอนโดในศรีราชา บนทำเลที่มีความอุดมสมบูรณ์ ใกล้สถานศึกษา และแหล่งงาน “นอตติ้ง ฮิลล์ แหลมฉบัง-ศรีราชา” เป็นคอนโดหรูภายในโครงการ Origin District กับพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ ตกแต่งในโทนสีขาวสบายตา สิ่งอำนวยความสะดวกที่หลากหลาย อาทิ ล็อบบี้ ห้องสมุด ฟิตเนส สวนลอยฟ้า สกายเลานจ์ และสระว่ายน้ำดาดฟ้า พร้อมวิวทะเลมุมสูง เป็นคอนโด ด้วยศักยภาพทำเล และความครบถ้วนของโครงการ ในราคาเริ่มต้น 2.29 ล้านบาท สำหรับห้อง Fully Furnished นอตติ้ง ฮิลล์ แหลมฉบัง-ศรีราชา จึงเหมาะทั้งสำหรับผู้ที่มองหาคอนโดหรู ทำเลดี ราคาถูกเพื่อลงทุน ในพื้นที่ EEC ศรีราชา รองรับกลุ่มผู้เช่าที่หลากหลาย และผู้ที่พึ่งย้ายมาทำงานในโซนแหลมฉบัง-ศรีราชา
Origin ยังเล็งเห็นความต้องการคอนโดระดับไฮเอนด์ จากผู้บริหารชาวญี่ปุ่นที่ทำงานในนิคมอุตสาหกรรมกว่า 10 แห่ง และต้องการเช่าคอนโดคุณภาพเยี่ยม ซึ่งยังมีจำนวนจำกัดในพื้นที่ รวมทั้งกลุ่มลูกค้ากำลังซื้อสูงที่มองหาคอนโดตากอากาศ ทำเลศักยภาพ KnightsBridge The Ocean Sriracha จึงถูกสร้างขึ้นในฐานะ คอนโดหรู ที่ออกแบบเพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ของคนญี่ปุ่น กับพื้นที่ส่วนกลางมากกว่า 5,000 ตารางเมตร ด้านหลังพิงภูเขา ด้านหน้าวิวทะเล ในราคาเริ่มต้น 2.89 ล้านบาท โดยจากสถิติพบว่า คอนโดในศรีราชา สามารถทำรายได้จากการปล่อยเช่าได้เฉลี่ยกว่า 7% ต่อปี จากราคาที่ถูกกว่าในกรุงเทพ และกำลังในการจ่ายค่าเช่าที่ไม่แพ้กัน
แนวคิดของ KnightsBridge The Ocean Sriracha คือการยกคอนโดแบรนด์ไฮเอนด์อย่าง KnightsBridge จากทำเลใกล้รถไฟฟ้า ใจกลางเมืองในกรุงเทพฯ มาวางบนทำเลศักยภาพอย่างศรีราชา ด้วยพื้นที่ส่วนกลางที่กว้างขวาง หลากหลาย พร้อมบรรยากาศอันเงียบสงบ วิวภูเขา และทะเลจากมุมสูง ที่บ้านเดี่ยว หรือคอนโด Low rise ไม่สามารถให้ได้ พร้อมบริการปล่อยเช่าลูกค้าญี่ปุ่นโดยผู้เชี่ยวชาญอย่าง Crown Residence จึงมั่นใจได้ว่า ไม่ว่าจะซื้อเก็บเป็นทรัพย์สิน หรือซื้อลงทุนปล่อยเช่า ผู้ซื้อจะสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มได้อย่างต่อเนื่อง
การพัฒนาของโครงการ EEC โดยมีศรีราชาเป็นศูนย์กลาง ในฐานะ เมืองที่มีความสมดุลในด้านการพักอาศัย และการทำงาน จากความเป็นเมืองอุตสาหกรรมที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทำให้การลงทุนคอนโด ในศรีราชา เพื่อรองรับ EEC เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ ทั้งสำหรับผู้ที่ต้องการซื้อเก็บ ซื้อปล่อยเช่า หรือซื้อเป็นบ้านหลังที่ 2 สำหรับพักผ่อน
ที่มา:
http://tatp.or.th/sriracha-node-will-be-number1-eec/
http://www.boi.go.th/upload/content/BOI-book%202016-EEC-EN-TH-20161129_88126.pdf
http://prop2morrow.com/2018/08/05/pave-moterway-eec/
https://www.dailynews.co.th/economic/639671