สารจากประธานเจ้าหน้าที่บริหาร

การที่ออริจิ้นสร้างวัฒนธรรมองค์กร ให้เป็นองค์กรที่มีการเปลี่ยนแปลงและก้าวไปข้างหน้าอยู่เสมอ ไม่เพียงแต่การรองรับกับเหตุการณ์เฉพาะหน้า แต่ยังมุ่งเน้นที่จะเป็นองค์กรที่เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน โดยมีการวางแผนการเติบโตและการป้องกันความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนและการเปลี่ยนแปลงจากปัจจัยต่างๆทั้งภายในและภายนอกซึ่งถือเป็น Key Success ที่ทำให้เราก้าวผ่านอุปสรรคและเติบโตได้อย่างน่าพอใจ

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร

นายพีระพงศ์ จรูญเอก

ปี 2564 เป็นปีที่เราอยู่กับสถานการณ์ COVID-19 มาเป็นปีที่ 2 ทุกภาคส่วนมีภูมิคุ้มกันและขีดความสามารถในการปรับตัวสูงขึ้นซึ่งน่าจะส่งผลต่อความมั่นใจในการ กลับมาดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจในระยะยาวตามปกติมากขึ้น ออริจิ้น และผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายอื่นๆ เอง ก็ยังปรับตัวได้อย่างแข็งแกร่ง ทั้งนี้การที่ออริจิ้นสร้างวัฒนธรรมองค์กร ให้เป็นองค์กรที่มีการเปลี่ยนแปลงและก้าวไปข้างหน้าอยู่เสมอ ไม่เพียงแต่การรองรับกับเหตุการณ์เฉพาะหน้าแต่ยังมุ่งเน้นที่จะเป็นองค์กรที่เติบโตอย่าง มั่นคงและยั่งยืน โดยมีการวางแผนการเติบโตและการป้องกันความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนและการเปลี่ยนแปลงจากปัจจัยต่างๆทั้งภายในและภายนอก ซึ่งถือเป็น Key Success ที่ทำให้เราก้าวผ่านอุปสรรคและเติบโตได้อย่างน่าพอใจ ภาพรวมยอดขาย (Presales) โครงการที่อยู่อาศัยของบริษัทตลอดทั้งปี 2564 อยู่ที่ประมาณ 30,257 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมาย ทั้งปีที่วางไว้ที่ 29,000 ล้านบาท เติบโตจากปี 2563 ถึงราว 17% และยังเป็น NewHigh ใหม่ของบริษัท โดยแบ่งเป็นยอดขายจากกลุ่มบ้านจัดสรร 28% และกลุ่มคอนโดมิเนียม 72% หากแบ่งตามสถานะโครงการ มีสัดส่วนยอดขายจากโรงการพร้อมอยู่ (Ready to move) 65% และกลุ่มโครง การที่เพิ่งเปิดขายหรืออยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง (Ongoing) 35% ซึ่งในปี 2564 นี้ ได้มีการเปิดตัวโครงการใหม่ 9 โครงการมูลค่า 9,975 ล้านบาท ด้านรายได้บริษัทมีรายได้รวม 15,943 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 3,194 ล้านบาท เติบโตจากปี 2563 ถึงราว 43% และ 20% ตามลำดับ ปี 2564

นับเป็นปีที่ไม่ง่ายสำหรับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ Key Success ของเรา จึงยังคงเป็นเรื่องความเข้าใจใน Customer Insightและความสามารถในการปรับตัวให้กับทุก สถานการณ์ เราสร้างลูกเล่นใหม่ๆในการเข้าถึงและ ตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ยังคงมองหาที่อยู่อาศัยใหม่ เช่น การจัดมหกรรมคอนโดออนไลน์ในรูปแบบ Property Live การเจาะเซ็กเมนท์ใหม่ๆ ส่งผลให้ทั้งโครงการพร้อมอยู่และ โครงการเปิดตัวใหม่ยังตอบสนองดีมานด์ได้อย่างดี จนทำยอดขายทั้งปีได้สูงกว่าเป้าหมาย

อีกหนึ่งความสำเร็จในปีนี้ คือการผลักดัน บมจ.พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น หรือ PRI เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ นำหุ้นเข้าซื้อขายวันแรก (30 พฤศจิกายน 2565) ชูจุดเด่นผู้ให้บริการที่เกี่ยวเนื่องกับอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร ด้วยบริการตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ให้กับลูกค้าโครงการอสังหาฯ และลูกค้ารายย่อย วางกลยุทธ์สร้างสรรค์บริการใหม่ๆ เพื่อตอบสนองทุกความต้องการด้านการอยู่อาศัย มุ่งขยายการลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับปัจจุบันและพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ โดยมีบริการที่หลากหลาย แบ่งเป็น 3 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่

  1. ธุรกิจที่ปรึกษาและออกแบบทางวิศวกรรม (Pre-Living Services) เช่น บริการที่ปรึกษาและควบคุมงานก่อสร้าง, บริการออกแบบสถาปัตยกรรม งานวิศวกรรมโครงสร้างและระบบประกอบอาคาร เป็นต้น
  2. ธุรกิจบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์ (Living Services) เช่น บริการบริหารนิติบุคคลอาคารชุด หมู่บ้านจัดสรร อาคารสำนักงาน บริการนายหน้าอสังหาริมทรัพย์, บริการบริหาร จัดการอสังหาฯ เพื่อเช่าระยะยาว เป็นต้น และ
  3. ธุรกิจให้บริการหลังการขายอสังหาริมทรัพย์ (Living & Earning Services) เช่น บริการออกแบบ และตกแต่งภายในบ้าน คอนโดมิเนียม และพื้นที่ส่วนกลาง โครงการอสังหาฯ, บริการทำความสะอาดภายในที่พักอาศัยส่วนกลางโครงการอสังหาฯ อาคารสำนักงาน และโรงงาน, บริการงานช่าง และขนย้ายสิ่งของ เป็นต้น

สำหรับแผนธุรกิจปี 2566 ภายใต้แนวคิด “Origin Infinity” สร้างการเติบโตและการดูแลผู้บริโภคแบบไม่สิ้นสุด พัฒนาเครือออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ให้กลายเป็น Well-Being Lifetime Company หรือองค์กรที่มีธุรกิจครอบคลุมการดูแลผู้บริโภคตลอดช่วงชีวิต ด้วยการขับเคลื่อน 3 ด้านหลัก ได้แก่

  1. การขยายสินค้าและบริการให้ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ (Nationwide Serve) ยกทัพธุรกิจในเครือกระจายสู่ต่างจังหวัดเพื่อพัฒนาการใช้ชีวิตที่ดีขึ้น (Better Living) ให้แก่คนในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ
  2. การขยายจักรวาลธุรกิจใหม่ให้มีเส้นทางเติบโตอย่างต่อเนื่อง (Multiverse Expansion) มุ่งพัฒนาช่วงชีวิตที่ดีขึ้น (Better Lifetime) ต่อยอด จากแผน Origin Multiverse ในปี 2565 ด้วยการขยายธุรกิจนอกเหนือจากที่อยู่อาศัยให้มีเส้นทางการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ครอบคลุมการดูแลคนทุกเจเนอเรชั่น ทุกช่วงจังหวะของชีวิต
  3. การดูแลสังคม (Social Attention) ร่วมใส่ใจสังคมและสิ่งแวดล้อมในหลากหลายมิติเพื่อสร้างสังคมที่ดีขึ้น (Better Society) ได้แก่ ด้านการพัฒนาบุคลากร (Talent Development) จับมือกับสถาบันการศึกษาต่างๆ สร้าง Origin Valley ร่วมกับสถาบันการศึกษานั้นๆ เพื่อเป็นพื้นที่พัฒนาทักษะคนรุ่นใหม่ให้มีความรู้ความสามารถที่ตรงกับความต้องการขององค์กรและตลาดแรงงาน รวมถึงแลกเปลี่ยนองค์ความรู้เพื่อพัฒนาบุคลากรในเครือ

ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ที่มีมากกว่า 3,000 คน ให้พร้อมเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ด้านการพัฒนาชุมชน (Community Development) ดำเนินโครงการ Origin Give เพื่อสร้างโอกาสและส่งมอบสิ่งดีๆ แก่ชุมชน อาทิ การมอบทุนการศึกษา การมอบอุปกรณ์การแพทย์ การลงพื้นที่พัฒนาโรงเรียน ด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable Development) ร่วมเดินหน้าแผน Net-Zero Emission 2044 เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในทุกมิติ

สุดท้ายนี้ ออริจิ้น ขอแสดงความยินดีกับทุกท่านที่ได้ก้าวผ่านสถานการณ์ที่ยากลำบากมาได้ และขอเป็นกำลังใจสำหรับการเริ่มต้นสิ่งใหม่ๆ ในชีวิต บริษัทขอขอบพระคุณบรรดาผู้มีส่วนร่วมในความสำเร็จของบริษัททุกท่าน ทั้งลูกค้า พันธมิตร คู่ค้าคณะกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานทุกท่าน บริษัทสัญญาว่าจะยึดถือหลักธรรมมาภิบาล เพื่อเป็นประโยชน์แก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และสังคมโดยรวมต่อไป