“พีระพงศ์ จรูญเอก” ซีอีโอ ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ขึ้นรับตำแหน่ง “นายกสมาคมอาคารชุดไทย” คนใหม่ปี 2565-2566 เตรียมลุยภารกิจฟื้นตลาดคอนโด หนุนผู้ประกอบการรายกลาง-รายเล็กให้เติบโตไปด้วยกัน เชื่อมั่นตลาดอสังหาฯกลับมาคึกคัก หลังแบงก์ชาติผ่อนปรน LTV คลายล็อกซื้อที่อยู่สัญญาที่ 2 และ 3 กระตุ้นเรียลดีมานด์-นักลงทุน คาดปัจจัยบวกจากนโนบายเปิดประเทศเต็มรูปแบบต้อนรับต่างชาติ ช่วยพลิกฟื้นการท่องเที่ยว หนุนรายได้คนในประเทศ ปลุกดีมานด์ตลาดอสังหาฯ
นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร ได้รับคัดเลือกจากคณะกรรมการสมาคมอาคารชุดไทย ให้ดำรงตำแหน่ง “นายกสมาคมอาคารชุดไทย” วาระประจำปี 2565-2566 ในการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2564 เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2565 ณ โรงแรมอโนมา แกรนด์ กรุงเทพฯ
“ในฐานะผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครบวงจรที่เติบโตจากการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับความไว้วางใจจากคณะกรรมการสมาคมอาคารชุดไทยให้ขึ้นรับตำแหน่งสำคัญในครั้งนี้ และยินดีที่จะนำเอาความรู้ วิสัยทัศน์ และประสบการณ์ที่สั่งสมมาตลอด 12 ปี มาปรับใช้ในการทำงานร่วมกับทางสมาคมฯ เพื่อช่วยฟื้นฟูและขับเคลื่อนตลาดคอนโดมิเนียมให้เติบโตยิ่งขึ้น พร้อมผลักดันและส่งเสริมผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ทั้งขนาดกลางและขนาดเล็กให้พร้อมรับมือกับการแข่งขัน สามารถเติบโตไปด้วยกันในทุกภาวะเศรษฐกิจ” นายพีระพงศ์ กล่าว
นายพีระพงศ์ กล่าวอีกว่า คาดการณ์ว่าภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยในปีนี้จะกลับมาคึกคักอีกครั้ง หลังธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ผ่อนคลายมาตรการ LTV ชั่วคราว โดยปรับเกณฑ์ให้ผู้ที่ซื้อที่อยู่อาศัยมูลค่าไม่เกิน 10 ล้านบาท เป็นสัญญาที่ 2 และสัญญาที่ 3 สามารถยื่นขอสินเชื่อที่อยู่อาศัยได้ 100% จะช่วยกระตุ้นให้ผู้บริโภคกลุ่มเรียลดีมานด์ที่ซื้อเพื่ออยู่อาศัยเอง และกลุ่มนักลงทุนตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยได้ง่ายขึ้น ประกอบกับนโยบายเปิดประเทศเต็มรูปแบบของรัฐบาลที่จะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. 2565 เป็นต้นไป จะเข้ามาช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจและรายได้ของคนในประเทศ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยให้กลับมาสู่ภาวะใกล้เคียงปกติ ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดีต่อภาคอสังหาริมทรัพย์ที่คาดว่าจะมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นจากกำลังซื้อที่เพิ่มขึ้น
สำหรับบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI มีโครงสร้างธุรกิจหลากหลาย ประกอบด้วย 1.ธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อการขาย (Residential Development Business) พัฒนาคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรรมาแล้ว 103 โครงการ (ณ สิ้นไตรมาส 1/2565) เช่น แบรนด์ พาร์ค ออริจิ้น (PARK ORIGIN), ดิ ออริจิ้น (The Origin), ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ (Origin Plug & Play), ไนท์บริดจ์ (KnightsBridge), นอตติ้ง ฮิลล์ (Notting Hill), เคนซิงตัน (Kensington), แฮมป์ตัน (Hampton), บริกซ์ตัน (Brixton) และ บริทาเนีย (BRITANIA) รวมมูลค่าโครงการกว่า 154,900 ล้านบาท 2.ธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ (Recurring Income Business) เช่น โรงแรม เซอร์วิส อพาร์ตเมนท์ ค้าปลีก 3.ธุรกิจบริการ (Service Business) เช่น ธุรกิจการจัดการอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจตัวแทนซื้อ ขาย เช่า อสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ และยังมีวิสัยทัศน์ในการขยายประเภทธุรกิจใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง อาทิ ธุรกิจโลจิสติกส์ ธุรกิจเฮลท์แคร์ ธุรกิจบริหารสินทรัพย์ ธุรกิจพลังงาน ฯลฯ เพื่อยกระดับคุณภาพการใช้ชีวิตของผู้บริโภคแบบครบวงจร