บมจ.พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น หรือ PRI เข้าเทรดวันแรกในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ชูจุดเด่นผู้ให้บริการที่เกี่ยวเนื่องกับอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร ด้วยบริการตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ให้กับลูกค้าโครงการอสังหาฯ และลูกค้ารายย่อย วางกลยุทธ์สร้างสรรค์บริการใหม่ๆ เพื่อตอบสนองทุกความต้องการด้านการอยู่อาศัย มุ่งขยายการลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับปัจจุบันและพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ ส่วนผลงานงวด 9 เดือนแรกของปีนี้ท็อปฟอร์ม ทำกำไรสุทธิ 156.02 ล้านบาท เติบโต 128.17% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
นางสาวจตุพร วิไลแก้ว ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้นำหุ้นเข้าซื้อขายวันแรก (30 พฤศจิกายน 2565) ในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ โดยใช้ชื่อย่อ “PRI” ในการซื้อขายหลักทรัพย์ ซึ่งมีความมั่นใจว่าด้วยศักยภาพของบริษัทฯ ที่เป็นผู้ให้บริการที่เกี่ยวเนื่องกับอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจรชั้นนำแก่ลูกค้าโครงการอสังหาริมทรัพย์และลูกค้ารายย่อย ด้วยบริการที่ครอบคลุมตั้งแต่ก่อนเข้าอยู่อาศัย เข้าอยู่อาศัยแล้ว และหลังการขายอสังหาริมทรัพย์ และขับเคลื่อนการให้บริการด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย (Tech Service) โดยมีแอปพลิเคชัน (PRIMO Plus) ที่พัฒนาขึ้นเพื่อเชื่อมต่อและให้บริการแก่ลูกค้า อีกทั้งยังมีฐานลูกค้าจากบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) และลูกค้าทั่วไปที่ทำสัญญาให้บริการแบบระยะยาวและรายครั้ง ช่วยสนับสนุนความมั่นคงให้กับรายได้ จะสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และยกระดับบริษัทฯ สู่การเป็นผู้นำของธุรกิจให้บริการด้านอสังหาฯ แบบครบวงจรที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องตามเป้าหมายที่วางไว้
ทั้งนี้ บริษัทฯ มีบริการที่หลากหลายแบ่งเป็น 3 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ 1) ธุรกิจที่ปรึกษาและออกแบบทางวิศวกรรม (Pre-Living Services) เช่น บริการที่ปรึกษาและควบคุมงานก่อสร้าง, บริการออกแบบสถาปัตยกรรม งานวิศวกรรมโครงสร้างและระบบประกอบอาคาร เป็นต้น 2) ธุรกิจบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์ (Living Services) เช่น บริการบริหารนิติบุคคลอาคารชุด หมู่บ้านจัดสรร อาคารสำนักงาน บริการนายหน้าอสังหาริมทรัพย์, บริการบริหารจัดการอสังหาฯ เพื่อเช่าระยะยาว เป็นต้น และ 3) ธุรกิจให้บริการหลังการขายอสังหาริมทรัพย์ (Living & Earning Services) เช่น บริการออกแบบและตกแต่งภายในบ้าน คอนโดมิเนียมและพื้นที่ส่วนกลางโครงการอสังหาฯ, บริการทำความสะอาดภายในที่พักอาศัย ส่วนกลางโครงการอสังหาฯ อาคารสำนักงาน และโรงงาน, บริการงานช่างและขนย้ายสิ่งของ เป็นต้น
บริษัทฯ ได้วางกลยุทธ์ขยายงานบริการและสร้างสรรค์บริการใหม่ๆ ให้หลากหลายยิ่งขึ้น เพื่อตอบสนอง
ทุกความต้องการด้านการอยู่อาศัยในทุกจังหวะของการใช้ชีวิต (At Your Service, Every Moment) ตลอดจนเป็นแบรนด์แรกๆ ที่ลูกค้านึกถึงเมื่อต้องการใช้บริการที่เกี่ยวเนื่องกับอสังหาริมทรัพย์ พร้อมทั้งได้วางแผนขยายการลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจหลักของบริษัทฯ เพื่อเพิ่มศักยภาพและความแข็งแกร่งในการดำเนินงาน ปัจจุบันอยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ในการขยายธุรกิจ รวมถึงให้ความสำคัญกับลงทุนพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อเพิ่มความสะดวกรวดเร็วและเพิ่มประสิทธิภาพในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายและตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น
ขณะที่ผลการดำเนินงานปี 2562 – 2564 มีรายได้รวม 255.69 ล้านบาท 266.51 ล้านบาท และ 489.56 ล้านบาทตามลำดับ เติบโตเฉลี่ย 30.48% ต่อปี และมีกำไรสุทธิ 34.52 ล้านบาท 40.05 ล้านบาท และ 111.25
ล้านบาทตามลำดับ เติบโตเฉลี่ย 74.09% ต่อปี ปี ส่วนผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนแรกของปี 2565 มีรายได้รวม 604.26 ล้านบาท เติบโต 95.92% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 156.02 ล้านบาท เติบโต 128.17% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากรายได้ทั้ง 3 กลุ่มธุรกิจเติบโตได้ดี และมีอัตราการทำกำไรที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่อัตราผลตอบแทนจากสินทรัพย์ (ROA) ณ งวด 9 เดือนแรกของปี 2565 อยู่ที่ 61.62% และอัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้น (ROE) อยู่ที่ 81.20%
นายประเสริฐ ตันตยาวิทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ที่ปรึกษา เอเซีย พลัส จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า บมจ.พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น หรือ PRI เป็นบริษัทที่มีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง โดยมีประสบการณ์ดำเนินธุรกิจกว่า 11 ปี มีจุดเด่นที่หลากหลาย โดยเฉพาะการเป็นผู้ประกอบการรายแรกที่ให้บริการที่เกี่ยวเนื่องกับอสังหาริมทรัพย์ได้แบบครบวงจร ด้วยการสามารถนำเสนอบริการที่หลากหลาย ตั้งแต่ต้นจนจบแก่ผู้พัฒนาโครงการอสังหาฯ และตอบสนองความต้องการด้านการอยู่อาศัยแก่ลูกค้ารายย่อย จึงช่วยสร้างความได้เปรียบเชิงการแข่งขันและสร้างความแตกต่างจากผู้ประกอบการรายอื่น โดยปัจจุบัน PRI มีฐานลูกค้าทั้งที่เป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์และลูกค้ารายย่อยของบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ที่เป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำ และให้บริการแก่ลูกค้าโครงการอสังหาริมทรัพย์และลูกค้ารายย่อยทั่วไป รวมถึงมีการทำสัญญาให้บริการระยะยาวแก่ลูกค้าจึงมีรายได้อย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้การดำเนินธุรกิจของ PRI จะได้รับประโยชน์จากภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่กำลังฟื้นตัวและเปิดโครงการใหม่เป็นจำนวนมาก รวมถึงไลฟ์สไตล์ผู้อยู่อาศัยในปัจจุบันที่ต้องการความสะดวกสบายยิ่งขึ้น โดยการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ครั้งนี้ จะเสริมศักยภาพด้านเงินทุนเพื่อขยายธุรกิจและเพิ่มความคล่องตัวแก่การดำเนินงาน ซึ่ง บมจ.พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น จะนำเงินจากการระดมทุนไปใช้ขยายกิจการที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจปัจจุบันและพัฒนาเทคโนโลยีในการให้บริการแก่ลูกค้า รวมถึงใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ
นางสาวยอดฤดี สันตติกุล กรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย กล่าวว่า บมจ.พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น ถือเป็นหุ้น IPO ที่ได้รับการตอบรับอย่างคึกคักจากนักลงทุน โดยในช่วงที่ผ่านมามีนักลงทุนแสดงความต้องการจองซื้อหุ้นมากกว่าจำนวนที่จัดสรรไว้ ส่งผลให้สามารถปิดการเสนอขายหุ้น IPO ที่ราคาหุ้นละ 15 บาท จำนวนทั้งสิ้น 80 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 25 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนครั้งนี้ได้ตามเป้าหมาย โดยมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO อยู่ที่ 4,800 ล้านบาท ทั้งนี้เชื่อว่าด้วยศักยภาพของ PRI ซึ่งเป็นหุ้นที่มีผลการดำเนินงานเติบโตอย่างโดดเด่น มีการให้บริการแบบครบวงจร สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เป็นผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์และลูกค้ารายย่อยได้แบบวันสต็อปเซอร์วิส รวมถึงแผนงานขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง จะเป็นหุ้น Growth Stock ที่เติบโตอย่างมีศักยภาพต่อไป