พื้นที่ยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจ คือปัจจัยพื้นฐานด้านทำเลของกรุงเทพฯ เป็นข้อมูลที่ควรศึกษาไว้เป็นลำดับต้นๆ ก่อนเลือกซื้อหรือลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ เพราะจากอดีตย่านเมืองเก่าพระนคร หรือที่เรียกว่า “หัวใจของกรุงเทพ” ขยายขอบเขตสู่ทำเลที่รองรับทุกกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ส่งผลให้พื้นที่นี้ที่มี “ที่ดิน” มูลค่าสูง และการมีอยู่อย่างจำกัด หลายคนที่มีกำลังทรัพย์ก็มักจะต้องการมีที่ดิน บ้าน ที่ทำงาน ใช้ชีวิตอยู่กลางเมือง “กรุงเทพชั้นใน” นี้
แล้ว “กรุงเทพชั้นใน” เอาอะไรไปวัด ถ้าขอบเขตที่ไม่ใช่แค่ความรู้สึก เราขอวิเคราะห์ตามมิติปัจจัยพื้นฐาน ดังนี้
21 เขตพื้นที่การปกครอง คือ กรุงเทพชั้นใน
กรุงเทพมหานคร แบ่งพื้นที่การปกครองออกเป็น 50 เขต อ้างอิงจาก ขอบเขตการบริหารราชการ กรุงเทพมหานคร ซึ่งจะแบ่งกรุงเทพออกเป็น 3 พื้นที่ คือพื้นที่ชั้นใน ชั้นกลาง ชั้นนอก
ในเขตของพื้นที่ชั้นในมีหลายย่าน
เริ่มจาก “ย่านพระนครเมืองเก่าตั้งแต่ยุคเริ่มต้น” ได้แก่
1. เขตพระนคร
2. เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย
3. เขตสัมพันธวงศ์
4. เขตดุสิต
ภาพจำที่เรามักจะได้ยินชื่อถนนสายสำคัญในย่านนี้คือ ถนนเจริญกรุง ถนนราชดำเนิน ถนนเยาวราช ถนนสามเสน รวมไปถึงถนนที่เป็นชื่อจังหวัดต่างๆ เช่น ถนนพิษณุโลก ถนนนครสวรรค์ ถนนนครราชสีมา ถนนสุโขทัย ถนนศรีอยุธยา เป็นต้น โดยในพื้นที่ส่วนใหญ่ประกอบไปด้วย พระราชวัง โบราณสถาน วัดสำคัญ หน่วยงานราชการในระดับกระทรวง พื้นที่ทหาร โรงเรียนชื่อดังเก่าแก่ รวมไปถึงตลาด ชุมชนจากยุคแรกเริ่ม ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นพื้นที่ที่มีอาคารไม่สูงมากนัก เพื่ออนุรักษ์สภาพแวดล้อมเมืองเดิมไว้
“ย่านฝั่งธนบุรี ยุคเมืองหลวงเดิม”
5. เขตธนบุรี
6. เขตคลองสาน
7. เขตบางกอกน้อย
8. เขตบางกอกใหญ่
ภาพจำที่เรามักได้ยินชื่อถนนสายสำคัญในย่านนี้คือ ถนนเจริญนคร ถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน ถนนจรัญสนิทวงศ์ ถนนอรุณอัมรินทร์ ในพื้นที่ส่วนใหญ่ประกอบไปด้วย วัดเก่าแก่ ชุมชนที่อยู่อาศัย สถานศึกษา สถานที่ทางทหารเรือ โรงพยาบาลขนาดใหญ่ โดยฝั่งธนฯนี้ บางพื้นที่มีห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ จะเริ่มมีคอนโดตึกสูงบ้างในบางโซน และมีรถไฟฟ้าระบบรางในบางพื้นที่ ส่วนใหญ่จะเป็นพื้นที่ที่มีอาคารไม่สูงมากนัก แต่ก็มีบางโซนที่ทำอาคารสูงได้ คือย่าน เจริญนคร ที่เป็นที่ตั้งของห้างฯ ไอคอนสยาม
“ย่านเศรษฐกิจใหม่ CBD และ Downtown”
9. เขตพญาไท
10. เขตราชเทวี
11. เขตปทุมวัน
12. เขตวัฒนา
13. เขตคลองเตย
14 เขตบางรัก
15 เขตสาทร
16 เขตยานนาวา
17 เขตบางคอแหลม
18 เขตบางซื่อ
19 เขตห้วยขวาง
20 เขตจตุจักร
21 เขตดินแดง
ภาพจำที่เรามักจะได้ยินชื่อถนนสายสำคัญในย่านนี้คือ ถนนสาทร ถนนพระราม 4 ถนนรัชดาภิเษก ถนนสุขุมวิท ถนนอโศก ถนนทองหล่อ ถนนพญาไท ถนนเพชรบุรี และในพื้นที่ส่วนใหญ่ประกอบไปด้วย อาคารสำนักงานขนาดใหญ่ ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ สถานฑูต สถานศึกษาของรัฐและเอกชน รถไฟฟ้าสายหลัก โรงพยาบาล สวนสาธารณะขนาดใหญ่ คอนโดตึกสูง แหล่งบันเทิงไลฟ์สไตล์ต่างๆ โดยพื้นที่นี้จะเต็มไปด้วยอาคารขนาดใหญ่ตามแนวถนนหลัก ตึกสูงระฟ้าสวยงามโดดเด่นอยู่กันเป็นกลุ่มก้อนในเกือบทุกพื้นที่ ระบบโครงข่ายคมนาคมทั้งทางด่วน รถไฟฟ้าหลากหลายสาย สังเกตได้ไม่ยากเลยในโซนนี้ หากเดินทางเข้ามาในกรุงเทพฯ
กรุงเทพชั้นในฯ ผังเมืองบอกชัด
โซนสีแดงพาณิชยกรรมและโซนสีน้ำตาล อยู่อาศัยหนาแน่นมาก
ถ้านำผังเมืองมากาง จากพื้นที่ส่วนใหญ่ตาม 21 เขต จะพบว่า ผังเมือง กำหนดสีและการพัฒนาเมืองชัดเจนมาก ผังเมืองสีแดงและสีน้ำตาล เป็นผังสีที่สร้างพื้นที่อาคารได้สูงสุดจากทุกผังสี คือ 7-10เท่า และมีข้อจำกัดที่น้อยกว่าโซนอื่นๆ เอื้อให้เกิดการพัฒนาเมืองได้ง่าย เราจึงเห็นอาคาร Mixed-use สำนักงานขนาดใหญ่ ห้างขนาดใหญ่จำนวนมาก รวมไปถึงคอนโดตึกสูงในระดับ Luxury หลายแห่งในย่านนี้
ซึ่งผังเมืองกำหนดให้โซน 21 เขตนี้ เป็นพื้นที่ทำเลที่สร้างมูลค่าเศรษฐกิจให้กับกรุงเทพ ทั้งในแง่การพัฒนา การลงทุน การใช้ชีวิตของผู้คนที่เกี่ยวโยงกัน ก่อให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจต่อเนื่องอย่างไร้รอยต่อ
ส่วนใครอยู่ในแนวถนนวงแหวนรอบแรกของกรุงเทพฯ คือ โซนทำเลกรุงเทพชั้นใน โดยถ้าพูดชื่อถนนวงแหวนรอบแรกของกรุงเทพฯ หลายคนจะนึกไม่ออก แต่ถ้าพูดถึงถนนรัชดาภิเษก ทุกคนจะเข้าใจทันที ซึ่งแนวคิดของถนนวงแหวนนี้เป็นถนนที่สร้างขึ้น เพื่อแก้ปัญหาการจราจรของกรุงเทพชั้นใน โดยเป็นถนนที่วิ่งรอบกรุงเทพเชื่อมต่อกับ 21 เขตปกครองกรุงเทพชั้นใน ถนนวงแหวนรัชดาภิเษกจะประกอบด้วยถนนต่างๆมาเชื่อมกัน รวมระยะทางประมาณ 45 กิโลเมตร ประกอบไปด้วยถนน รัชดาภิเษก (ห้วยขวาง-คลองเตย-ยานนาวา), อโศก-ดินแดง, อโศกมนตรี, พระราม 3, จรัญสนิทวงศ์, วงสว่าง ถนนวงแหวนรัชดาภิเษกนี้จึงเป็นถนนที่มีความสำคัญกับกรุงเทพ เพราะวิ่งผ่านทำเลเศรษฐกิจสำคัญของกรุงเทพ เชื่อมทุกพื้นที่เข้าด้วยกัน หากใช้วงถนนเส้นนี้เป็นแนวกำหนดพื้นที่กรุงเทพชั้นในก็ย่อมได้
สายรถไฟฟ้า Circle line อีกเส้นกำหนดกรุงเทพชั้นในชัดเจน
MRT สายสีน้ำเงิน หรือรถไฟฟ้าสายเฉลิมรัชมงคล คือรถไฟฟ้าสายหลักสายเดียวที่มีเส้นทางเดินรถเป็นแนววงกลม ส่วนใหญ่เส้นทางจะคล้ายๆ ถนนวงแหวนรัชดาภิเษก ยกเว้นช่วงทางตอนใต้ของเส้นทางนี้ ที่จะไม่วิ่งตามแนวถนนรัชดาภิเษก (ฝั่งธนฯ) และถนนพระราม 3 แต่จะหักเลี้ยวเข้า ถนนอิสรภาพ ถนนสามยอด ถนนเจริญกรุง ไปเชื่อมต่อถนนพระราม 4 แล้วไปบรรจบกับถนนวงแหวนรัชดาภิเษกอีกครั้ง
ดังนั้น หากดูรถไฟฟ้าสายสี้น้ำเงินนี้ เป็นปัจจัยในการกำหนดแนวกรุงเทพชั้นใน ก็ย่อมได้อีกเช่นกัน
ดังนั้นสรุป 4 ปัจจัยพื้นฐานหลัก
– 21 เขตพื้นที่การปกครอง (พระนคร-ธนบุรี-CBD-Downtown)
– ผังเมืองโซนสีแดงโซนสีน้ำตาลอยู่อาศัยหนาแน่นมาก
– แนวถนนวงแหวนรอบแรกของกรุงเทพฯ
– สายรถไฟฟ้า Circle line
ใช้เป็นการกำหนดพื้นที่ชั้นในกรุงเทพอย่างแท้จริง โดยที่มูลค่าของทำเล มีแก่นและรากฐานแบบลงลึก เมืองชั้นในกรุงเทพนี้ จึงเติบโตและพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เชื่อมต่อทำเลเศรษฐกิจกันอย่างสมบูรณ์แบบ
หัวใจของกรุงเทพชั้นใน กับคอนโด 5 ทำเล “ย่านเศรษฐกิจใหม่ CBD และ Downtown” ทำเลที่มีมูลค่าอันดับต้นๆ ของประเทศ
01 สุขุมวิท-พร้อมพงษ์
ทำเลที่อยู่ในแนว Core CBD อโศก หัวใจหลักของกรุงเทพ บนผังเมืองที่ออกแบบให้สำหรับอยู่อาศัย ที่เชื่อมต่อเขตกรุงเทพชั้นใน สาทร-ปทุมวัน-คลองเตย-วัฒนา แบบไร้รอยต่อ
นี่คือคำตอบว่าใครๆ ก็นิยมมาลงทุนในย่านที่มีมูลค่าสูงนี้ ด้วย Mega project ไม่ว่าจะห้างฯ สำนักงาน รวมกันเกินมูลค่าเกินแสนล้าน ทั้งที่พึ่งสร้างขึ้นไม่นานมานี้ และรวมไปถึงที่กำลังจะสร้างในอนาคตอันใกล้ อย่าง Emsphere Emquartier Emporium, QNSCC ศูนย์ประชุมสิริกิติ์, One 24, FYI, PARQ , PUN WORKSPACE , One Bangkok
โครงการที่ตั้งอยู่สุขุมวิท 24 (พร้อมพงษ์) อยู่ตรงกลางเชื่อมระหว่าง สุขุมวิท-พระราม 4 สองถนนหลักที่ทำเลมีมูลค่าอันดับต้นๆ ของประเทศ และอีกหนึ่งความล้ำค่าของโครงการนี้ คือ ที่ดินเชื่อมต่อถนน 2 ซอยสำคัญ อย่างซอยสุขุมวิท 22 และสุขุมวิท 24 เรียกได้ว่าเป็น Rare Item ที่หาโครงอื่นทดแทนไม่ได้ เพราะโครงการพักอาศัยในย่านสุขุมวิท มักจะไม่มีพื้นที่ที่ใหญ่พอให้เชื่อมถนนทั้งสองสาย รวมถึงเข้าออก 2 ทางได้แบบโครงการ Park Origin Phromphong นี้เลย และด้วยการเติบโตทางทำเลของถนนพระราม 4 ตอนกลาง-ตอนปลายในอนาคต จะทำให้ทำเลสุขุมวิท 24 มีมูลค่าในทุกมิติ ด้วยการมาของกลุ่ม Mega Project ต่างๆ จาก Big Name เช่น One Bangkok, The Parq, QNSCC, FYI รวมไปถึงที่ดินในอนาคตที่รอการพัฒนาเป็น Mixed-Use ของกลุ่มโอสถานุเคราะห์ การพัฒนา Mixed-Use ตรงพระราม4-คลองเตยของภาครัฐในระยะยาว ปฎิเสธไม่ได้ว่า ทำเลนี้ มี Story ทางมูลค่าอีกยาวไกล
02 สุขุมวิท-ทองหล่อ
ทำเลที่ผังเมืองออกแบบให้สำหรับอยู่อาศัยเป็นหลักอย่างสุขุมวิท-ทองหล่อ อยู่กลางเขตวัฒนา ซึ่งเป็นในกรุงเทพชั้นใน และพื้นที่ที่แต่ละโครงการคอนโดมิเนียมโดยรอบที่มีพื้นที่สีเขียวมากที่สุดแห่งหนึ่ง นับว่าเป็นปรากฎการณ์สำคัญบนทำเลที่ที่ดินหาได้ยาก แต่พื้นที่สีเขียวหาได้ยากกว่านี้ และมีสถานที่สำคัญโดยรอบ เช่นThe Commons, 72 Courtyard, J Avenue, Donki, Marche, โรงพยาบาลสมิติเวช, โรงพยาบาลคามิลเลียน, โรงเรียนนานาชาติเอกมัย และในอนาคตกำลังจะมี Mega project เกิดขึ้นอย่าง Origin Thonglor World ที่เป็น Freehold Mixed Use รวมทั้งที่อยู่อาศัย ที่ทำงาน ร้านอาหาร และโรงแรม พร้อมสวนขนาด 4 ไร่ด้วย
ตั้งอยู่บนถนนทองหล่อ 10 ด้วยเรื่องราวของที่ดินเดิมคือ Arena 10 จากคุณตัน ส่งไม้ต่อสู่ Origin Property พร้อมกับมีปัจจัยเฉพาะว่า มีเพียงไม่กี่ถนนในทองหล่อ ที่สามารถขึ้นอาคารสูงได้ จึงทำให้ถนนทองหล่อ 10 นี้ มีมูลค่าสูงยิ่งขึ้นไปอีก นอกจากปัจจัยเฉพาะนี้แล้ว ขนาดที่ดินของ Park Origin Thonglor ยังใหญ่มากพอให้ Facilities ได้ขนาดใหญ่แบบที่โครงการอื่นให้ไม่ได้
และรวมไปถึงปัจจัยเฉพาะในเรื่องของการเชื่อมต่อของ ทองหล่อ-เอกมัย ที่ถนนทองหล่อ 10 นี้ทำได้ ทำให้มีทางเลือกในการเดินทางมากกว่า เมื่อเชื่อมต่อ 2 ถนนหลักที่เต็มไปด้วยสถานที่สำคัญและแหล่งไลฟ์สไตล์ของกรุงเทพชั้นใน ซึ่งทุกคนรู้จักในย่าน สุขุมวิท-ทองหล่อ-เอกมัย-เพชรบุรี นี่จึงเป็นที่มาว่ามูลค่าทางตำแหน่งที่ดินของโครงการมีมูลค่าสูง ประกอบกับรูปแบบของโครงการที่รอให้เข้ามาสัมผัสรูป รส กลิ่น เสียง ของจริง
03 พระราม 4 จุฬา-สามย่าน
พื้นที่ที่ผังเมืองส่วนใหญ่เป็นสีแดง ซึ่งสร้างมูลค่าได้อย่างมหาศาล จึงได้รับการออกแบบให้พื้นที่นี้มีโครงการขนาดยักษ์ใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น Mixed-use เช่น Samyan Mitrtown, One Bangkok, Dusit Central Park และยังอยู่ในเขตพื้นที่บางรัก-ปทุมวัน-สาทร เขตที่เป็น Core CBD ที่แรกของกรุงเทพ เรียกได้ว่าเป็นทำเลศักยภาพสูง และยังคงดึงดูดความเจริญ รวมถึง Mega Project ต่างๆ ได้ตั้งแต่อดีต จนถึงปัจจุบัน และในอนาคตก็คาดว่าจะมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
ตั้งอยู่บนถนนพระราม 4 ช่วงต้น ใกล้กับจุดตัดถนนบรรทัดทอง โดยถนนบรรทัดทอง ปัจจุบันกลายเป็นถนนแห่ง Lifestyle Food ไม่แพ้ถนนเยาวราชเลยก็ว่าได้ เป็น Destination ที่คนไทย รวมถึงชาวต่างชาติต้องมา ส่วนถนนพระราม 4 ที่โครงการตั้งอยู่นั้น เป็นถนนหลักอันสำคัญซึ่งเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยอันดับ 1 ของประเทศอย่าง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ไปจนถึง Mega Project ระดับประเทศซึ่งมีมูลค่ามากที่สุดรวมกันหลายแห่ง เช่น One Bangkok, Dusit Central Park ที่กำลังจะเริ่มแล้วเสร็จในปี 67-68 นี้ และจะทำให้ถนนพระราม 4 กลายเป็นทำเลที่มีมูลค่าสูงที่สุดในประเทศที่น่าจับตามองเลยก็ว่าได้
อีกประเด็นที่น่าสนใจ อย่างโครงสร้างพื้นฐานของถนนพระราม 4 เป็นโครงสร้างด้านบนถนนที่ไม่ถูกปกคลุมด้วยรถไฟฟ้า ทำให้ทัศนียภาพของถนนโปร่ง โล่ง และทำให้เผยให้เห็นความงดงามของทำเลในด้านการรับรู้ทางสุนทรียะของสถาปัตยกรรมของอาคารต่างๆ แลนสเคปของเมือง ทิวทัศน์ของสวนลุมพินี รวมไปถึงแสงแดดส่องถึงถนนฆ่าเชื่อได้ดี การระบายอากาศที่ดีกว่า แตกต่างจากถนนที่มีโครงสร้างรถไฟฟ้าอยู่ด้านบน และนี่คือภาพสมราคาของถนนที่มีมูลค่ามากที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศ
ถึงอย่างนั้น ถนนพระราม 4 ยังมีรถไฟฟ้าใต้ดินคือ MRT สายสีน้ำเงิน ที่เป็นสายหลักวิ่งได้ทั่วกรุงเทพชั้นใน สอดรับประสานอยู่ใต้ถนนนี้อย่างกลมกลืน
และปัจจัยสำคัญมากๆ ของทำเลพระราม 4 ช่วงต้นนี้ คือที่ดิน Free Hold ที่เป็นการขายสิทธิ์ขาดให้เราร่วมเป็นเจ้าของผ่านอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่อยู่อาศัยได้ ซึ่งที่ดินแบบบนี้มีจำกัด ส่วนใหญ่จะเป็น Leashold ที่กรรมสิทธิ์มีจำกัดตามกรอบระยะเวลา นี่จึงเป็นปัจจัยที่ทำให้ Park Origin Chula-Samyan ที่เป็นโครงการแบบ Freehold ที่มีมูลค่าขึ้นมามากกว่าเดิม
04 ราชเทวี
ทำเลที่อยู่ท่ามกลาง CBD เมืองเก่าและ CBD ยุคปัจจุบัน ทำให้ช่วงรอยต่อของผังเมืองมีเสน่ห์มาก เพราะจะเห็นแนวเมืองเก่าที่ไม่มีตึกสูงกับย่านราชเทวี ทำให้วิวสวยงามไร้การบดบัง โดยปัจจุบัน ตรงแยกราชเทวีกำลังจะเป็นจตุรัสใหม่ที่มีอาคารสำนักงาน Mixed-Use ขนาดใหญ่กำลังก่อสร้างอย่าง JRK Tower ที่จะมาช่วยเติมเต็ม Spring Tower อาคารสำนักงานที่พึ่งสร้างเสร็จไม่นานด้วย ทำให้ภาพต่อไปของบริเวณตรงนี้จะคล้ายๆ แยกสาทรในอนาคต และเนื้อหอมไม่แพ้ย่านพระราม 4 เลย
และทำเลมูลค่าสูงนี้ยังไปต่อได้ในอนาคตได้อีกไกล ด้วยการมาของรถไฟฟ้าสายสีส้มฝั่งตะวันตก ซึ่งสายนี้จะเป็นรถไฟฟ้าสายหลักเหมือน BTS สายสีเขียว เพราะเป็น Heavy Rail สามารถรองรับขนส่งผู้โดยสารได้มากกว่า 50,000 คน/ช.ม. โดยวิ่งจากกรุงเทพตะวันออก สู่กรุงเทพชั้นใน ใจกลางเมือง และปลายทางไปยังกรุงเทพตะวันตก
ตั้งอยู่บนถนนเพชรบุรี เขตราชเทวี เชื่อมต่อ 2 ถนนหลัก พญาไท-พระราม 6 และเจอแค่ 1 ไฟแดงในการไปย่านสยามสแควร์ ที่ซึ่งเป็นที่ตั้งของห้างระดับโลกอย่าง สยามพารากอน (Siam Paragon) Landmark สำคัญ สำหรับคนไทย และชาวต่างชาติ นอกจากนี้ตัวที่ดิน ยังมีจุดเด่นตั้งแต่การเลือกซื้อที่ดินแปลงนี้ คือ ตำแหน่งที่ดินอยู่ในทิศตะวันตก จุดสุดท้ายของขอบผังเมืองข้อบัญญัติท้องถิ่น ที่กำหนดให้สร้างอาคารสูงได้ จึงทำให้ได้วิวเมืองเขตอนุรักษ์ที่มีเสน่ห์ในด้านทิศตะวันตก โดยมีกฎหมายไม่ให้สร้างอาคารสูงรองรับ
ด้วยข้อกฎหมายเฉพาะด้านพื้นที่เป็นตัวกำหนด จึงทำให้รับรองได้ว่าจะมีโอกาสน้อยมากในอนาคต ที่ตึกสูงจะถูกสร้างมาบดบังวิว จึงเพิ่มมูลค่าห้องด้วยปัจจัยเฉพาะที่ว่าโดยไม่มีโครงการไหนมาทดแทนได้ และวิวด้านนี้เองก็ได้สร้างปรากฎการห้องฝั่งด้านนี้ ถูกเลือกจับจองเป็นอันดับแรกๆ เพราะวิวพระอาทิตย์ตกกับเขตเมืองอนุรักษ์รัตนโกสินทร์เก่า เป็นสิ่งที่มีมูลค่า หาจับต้องได้ยาก และที่สำคัญราชเทวี คือกรุงเทพชั้นในที่อยู่ตรงกลางของเขตกรุงเทพชั้นในทั้งหมด อยู่ตรงจุดรอยต่อของกรุงเทพชั้นใน ในเขตท่องเที่ยวอนุรักษ์และเขตเศรษฐกิจในปัจจุบัน
ดังนั้นที่สุดของกรุงเทพชั้นใน ต้องราชเทวีเท่านั้น
05 พญาไท
ทำเลที่เป็นย่านของบุคลากรทางการแพทย์และโรงพยาบาลชั้นนำ เช่น มหาวิทยาลัยมหิดล โรงพยาบาลพญาไท 1 โรงพยาบาลราชวิถี โรงพยาบาลพระมงกุฎ และส่วนหน่วยงานทางการแพทย์อื่นๆ รวมไปถึงย่านที่เชื่อมต่อกับสนามบินได้ง่ายด้วย Airport Rail Link จากสถานีพญาไทต้นทาง สู่สถานีสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ ซึ่งปัจจุบันย่านพญาไทน่าสนใจมากขึ้น เพราะการมาของ The Unicorn Phayathai เป็นอาคาร Mixed-use ห้าง สำนักงาน ตึกขนาดใหญ่ที่มีความสูงในระดับ Skyscraper เกิน 200 เมตร ตั้งสูงตระหง่านและพึ่งสร้างเสร็จได้ไม่นาน ความใหม่นี้ ทำให้ย่านพญาไทถูกเติมเต็มมากขึ้นในการเป็นกรุงเทพชั้นใน
และในอนาคตอันใกล้ จะมี ONE ORIGIN PHAYATHAI โครงการอสังหาริมทรัพย์ครบวงจรขนาดใหญ่ รวมถึง Mixed-use ประกอบด้วย โรงแรมหรู อาคารสำนักงาน พื้นที่ร้านค้าปลีก คอมมูนิตี้มอลล์ ซึ่งพัฒนาร่วมทุนระหว่าง ออริจิ้น และ โตคิว แลนด์ เอเชีย มาช่วยยกระดับของทำเลนี้ให้มีมูลค่ามากขึ้นไปอีก
ที่ดินตั้งอยู่บนถนนพญาไท เขตราชเทวี มุ่งหน้าตรงสู่สยามสแควร์-จุฬา ได้ง่าย ตรงอย่างเดียวแค่ 2 ไฟแดง ซึ่งถนนพญาไทนี้เป็นถนนสั้นๆ ยาวแค่ 3.5 กิโลเมตร ในเขตกรุงเทพชั้นใน เริ่มที่แยกสามย่าน ถนนพระราม 4 ไปบรรจบที่อนุเสารีย์ชัย มีความกว้างถนน 7-8 เลน และถนนแห่งนี้ยังเต็มไปด้วยสถานที่สำคัญทั้งนั้น เช่น จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, สยามสแคว์, มาบุญครอง MBK, Siam Discovery, หอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพฯ BACC, วังสระปทุม, วรรณสรณ์ ทาวเวอร์ และโปรเจกต์ใหม่ๆ ที่เพิ่งเกิดขึ้นไม่นานมากนี้ ที่มาช่วยเติมเต็มให้พญาไทมีมูลค่าขึ้นไปอีก กับ The Unicorn Phayathai, JRK Tower, Spring Tower
Park Origin Phayathai จึงเป็นคอนโดที่ตั้งอยู่บนพื้นที่พาณิชยกรรมที่มีมูลค่าเป็นลำดับต้นๆ ของผังเมือง และบนตำแหน่งขอบเขตของพื้นที่ชั้นในบนเขตราชเทวี สำหรับจุดเด่นของตำแหน่งโครงการนี้ คือการเฟ้นหาที่ดิน และเลือกทำโครงการนี้ด้วยมูลค่าทางทำเล ราคาตารางวาละ 1 ล้านกว่าบาท เมื่อ 4 ปีที่แล้ว แต่ปัจจุบันที่ดินในทำเลใกล้โครงการ มีมูลค่าเติบโตเกินเกือบ 2 เท่าเข้าไปแล้ว จึงเป็นจุดตอกย้ำว่า ทำเลตรงนี้มีมูลค่าสูง และในอนาคตมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก โดยเฉพาะเหตุผลอย่างการมีที่ดินจำกัดในถนนสั้นๆ ที่ชื่อว่า พญาไท และยังอยู่บนกรอบของขอบเขต “กรุงเทพชั้นใน” อีกด้วย