ไม่ใช่แค่เรื่องของทำเล ราคา สิ่งอำนวยความสะดวกทั้งภายในและภายนอกโครงการ รวมถึงความน่าเชื่อถือของเจ้าของโครงการเท่านั้น หากแต่ “แบบห้องคอนโด” ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยซึ่งเป็นส่วนประกอบในการตัดสินใจซื้อคอนโดเช่นเดียวกัน ซึ่งห้องแต่ละแบบก็มีความเหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกันออกไป หากคุณอยากรู้ว่าห้องคอนโดมีกี่ประเภท แบบคอนโดไหนที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคุณ เรามีคำตอบให้แล้วในบทความนี้
ประเภทห้องคอนโดแบบไหนเหมาะกับเรา

1.ห้องนอน Studio (สตูดิโอ)
ห้องคอนโดขนาดเริ่มต้น ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะมีขนาดพื้นที่ประมาณ 20 – 30 ตารางเมตร โดยจะมีฟังก์ชันการใช้งานที่รวมเอาไว้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นห้องนั่งเล่น ห้องนอนและห้องครัว แต่คอนโดบางที่ก็มีการแบ่งสัดส่วนพื้นที่ภายในห้องอย่างชัดเจนด้วยการใช้ประตูบานเลื่อน
ข้อดีของห้องคอนโด Studio
- ราคาจับต้องได้ เหมาะสำหรับคนเริ่มต้น ห้อง Studio มักมีราคาถูกกว่าห้องแบบอื่น เหมาะกับนักศึกษาจบใหม่ มนุษย์เงินเดือนที่เพิ่งเริ่มทำงาน หรือคนที่อยากลงทุนปล่อยเช่า
- ดูแลง่าย ทำความสะอาดไว ด้วยขนาดที่กะทัดรัด ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาทำความสะอาดมาก เหมาะกับคนที่ใช้ชีวิตเร่งรีบ หรืออยู่คนเดียว
- ใช้พื้นที่ได้คุ้มค่าทุกมุม แม้จะเป็นห้องเล็ก แต่การออกแบบห้อง Studio มักเน้นการใช้พื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ปล่อยให้มุมใดว่างเปล่าโดยไม่จำเป็น
- ตกแต่งได้หลากหลายสไตล์ในงบจำกัด ห้องเล็กช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการตกแต่ง และยังสามารถเปลี่ยนบรรยากาศได้ง่าย เช่น ใช้ฉากกั้น หรือม่านเพื่อสร้างโซนพักผ่อน โซนครัว ฯลฯ
- เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนเมือง สำหรับคนที่ใช้เวลาอยู่นอกบ้านเป็นหลัก เช่น ทำงานนอกบ้านตลอดวัน แล้วกลับมาแค่พักผ่อน ห้อง Studio ถือว่าตอบโจทย์มาก
แบบห้องคอนโด Studio เหมาะกับใคร
- เหมาะกับผู้ที่มีงบจำกัด เนื่องจากแบบคอนโดสตูดิโอมักเป็นไทป์ห้องคอนโดที่มีราคาถูกที่สุดของแต่ละโครงการ อีกทั้งค่าส่วนกลางยังจ่ายน้อยเพราะมีพื้นที่ต่อตารางเมตรไม่มาก
- เหมาะกับการอยู่คนเดียว เพราะห้องมีพื้นที่ใช้สอยน้อย หากอยู่มากกว่า 1 คน อาจทำให้รู้สึกอึดอัดและไม่มีความเป็นส่วนตัวได้
- ห้องสตูดิโอเหมาะกับคนที่ไม่เน้นทำอาหารมากนัก เพราะห้องครัวมีขนาดเล็กและแบบห้องคอนโดนี้เป็นแบบเปิดโล่ง ทำให้ไม่เหมาะกับการทำอาหารกลิ่นแรงๆ แต่ถ้าชอบทำอาหารและมีงบจำกัด ก็มีบางคอนโดที่เป็นแบบครัวปิดติดระเบียงให้เลือก
ตัวอย่างแปลนห้องคอนโดแบบ Studio
โครงการคอนโด The Origin Phahol 57

2.ห้องนอน 1 Bedroom (1 ห้องนอน)
แบบห้องคอนโดขนาด 1 ห้องนอน คือประเภทห้องคอนโดที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะมีพื้นที่ใช้สอยที่ไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป โดยมีพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ไม่เกิน 30 ตารางเมตร ไปจนถึงประมาณ 50 ตารางเมตร และมีการแบ่งสัดส่วนพื้นที่ใช้สอยอย่างชัดเจน ทั้งห้องนั่งเล่น ห้องครัว ห้องนอนและระเบียง ซึ่งส่วนใหญ่แล้วห้องคอนโด 1 ห้องนอน มักจะใช้ประตูบานเลื่อนในการแบ่งสัดส่วน
ข้อดีของห้องคอนโด 1 Bedroom
- มีความเป็นสัดส่วน ใช้ชีวิตได้เป็นระบบ การแยกห้องนอนออกจากห้องนั่งเล่นและครัวอย่างชัดเจน ทำให้การใช้ชีวิตสะดวกมากขึ้น เช่น มีแขกมาบ้านก็ไม่ต้องกังวลว่าจะเห็นพื้นที่ส่วนตัว
- เพิ่มความเป็นส่วนตัวและความสงบ ใครที่เป็นสายทำงาน หรือต้องการพื้นที่พักผ่อนจริง ๆ จะรู้ว่าการมีห้องนอนแยกต่างหากช่วยให้หลับสบาย ไม่มีเสียงรบกวนจากทีวีหรือห้องครัว
- เหมาะกับการใช้ชีวิตคู่ หรืออยู่คนเดียวแบบสบายขึ้น มีพื้นที่พอสำหรับสองคน ไม่อึดอัด และถ้าอยู่คนเดียวก็จะรู้สึกโปร่งโล่งมากขึ้น เป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตอีกขั้น
- มีครัวปิดหรือครัวแยก กลิ่นอาหารไม่กระจาย คนที่ชอบทำอาหารจะหลงรักห้องแบบนี้ เพราะสามารถปิดครัวไว้ได้ ไม่ต้องกลัวกลิ่นติดผ้าม่านหรือโซฟา
- ปล่อยเช่าง่าย เป็นที่นิยมในตลาด ด้วยฟังก์ชันที่ลงตัว ทำให้ห้อง 1 Bedroom มักเป็นตัวเลือกแรก ๆ ของผู้เช่า ทั้งคนทำงาน พนักงานบริษัท หรือคู่รักที่เพิ่งเริ่มต้นใช้ชีวิตร่วมกัน
แบบห้องคอนโด 1 Bedroom เหมาะกับใคร
- ห้องคอนโด 1 Bedroom เหมาะกับคนที่อยู่คนเดียวแต่อยากมีพื้นที่ใช้สอยที่เพิ่มมากขึ้นกว่าห้องสตูดิโอ หรือจะอยู่ 2 คน ก็สามารถทำได้เช่นกัน
- แบบห้องคอนโด 1 Bedroom เป็นอีกหนึ่งประเภทห้องคอนโดที่มักจะถูกซื้อเพื่อนำไปปล่อยเช่า เนื่องจากพื้นที่ใช้สอยของห้องคอนโดแบบนี้มักเป็นตัวเลือกที่คนส่วนใหญ่เลือกอยู่อาศัย
- เหมาะสำหรับคนที่ชอบทำอาหารกินเอง เนื่องจากห้องคอนโด 1 Bedroom มีพื้นที่ครัวที่แบ่งสัดส่วนอย่างชัดเจน ด้วยการกั้นแยกจากส่วนอื่นๆ ภายในห้อง ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องกลิ่นของอาหารนั่นเอง
ตัวอย่างแปลนคอนโด 1 ห้องนอน
โครงการคอนโด Park Origin Phayath

3.ห้องนอน 1 Bedroom Plus (1 ห้องนอน พลัส)
สำหรับแบบห้องคอนโด 1 Bedroom Plus คือ ห้องคอนโดแบบ 1 ห้องนอน ที่เพิ่มขนาดพื้นที่ใช้สอยมากขึ้น ซึ่งความพิเศษของแบบคอนโดนี้ คือเพิ่มห้องอเนกประสงค์เข้ามาอีก 1 ห้อง ซึ่งปรับเปลี่ยนเป็นห้องต่างๆ ได้ตามไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัย ไม่ว่าจะเป็นห้องทำงาน ห้องนั่งเล่น ห้องออกกำลังกาย ห้องเล่นเกม หรือจะเปลี่ยนเป็นห้องนอนขนาดเล็กอีก 1 ห้อง ก็ได้เช่นกัน ซึ่งห้องคอนโดแบบ 1 Bedroom Plus จะมีพื้นที่ใช้สอยไม่เกิน 50 ตารางเมตร
ข้อดีของห้องคอนโด 1 Bedroom Plus
- มีพื้นที่อเนกประสงค์ ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ จุดเด่นของห้อง 1 Bedroom Plus คือมีห้องเสริมที่ปรับเปลี่ยนได้ตามต้องการ จะทำเป็นห้องทำงาน ห้องฟิตเนสเล็ก ๆ หรือห้องแต่งตัวก็ยังได้
- แยกโซนได้ชัด เพิ่มความเป็นส่วนตัว เหมาะกับการอยู่แบบ 2 คน หรือคนที่ต้องการแบ่งพื้นที่ชีวิตให้เป็นสัดส่วน เช่น ทำงานไม่รบกวนพื้นที่พักผ่อน
- เหมาะกับยุค Work from Home ไม่ต้องนั่งทำงานบนโซฟาหรือเตียงอีกต่อไป เพราะมีห้องเสริมที่สามารถใช้เป็นโฮมออฟฟิศได้แบบสบาย ๆ
- มีพื้นที่เตรียมพร้อมสำหรับอนาคต คู่รักที่กำลังวางแผนสร้างครอบครัว หรือคนที่มองไกลถึงอนาคต จะชอบห้องแบบนี้ เพราะสามารถเปลี่ยนห้องอเนกประสงค์เป็นห้องเด็กเล็กหรือห้องนอนที่สองได้เลย
- ใช้งานได้หลากหลาย แต่ไม่เกินงบ แม้จะมีพื้นที่เพิ่ม แต่ราคาของห้อง 1 Bedroom Plus ยังอยู่ในระดับที่เข้าถึงได้ง่าย ทำให้คุ้มค่ามากสำหรับคนที่ต้องการฟังก์ชันที่มากขึ้นในราคาที่ยังควบคุมได้
แบบห้องคอนโด 1 Bedroom Plus เหมาะกับใคร
- ผู้ที่ต้องทำงานที่บ้าน (Work from Home) หรือฟรีแลนซ์ที่ต้องการความเป็นส่วนตัวในเวลาทำงาน หรือแม่ค้า พ่อค้าออนไลน์ที่ต้องการมุมสวยๆ ในการจัดวางสินค้าสำหรับไลฟ์ขายของ
- คนที่กำลังวางแพลนขยายครอบครัวในอนาคต เช่น มีลูก หรือคู่รักที่ต้องการห้องคอนโดที่มีพื้นที่ใช้สอย
แปลนห้องคอนโด 1 Bedroom Plus
โครงการคอนโด Origin Place Bangna

ห้องเพดานสูง
เป็นแบบห้องคอนโดรูปแบบใหม่ที่พบเห็นได้มากขึ้นในโครงการต่าง ๆ ในปัจจุบัน โดยความพิเศษของคอนโดแบบ Duplex คือ จะมีเพดานสูงกว่าห้องคอนโดทั่วไป ทำให้ห้องดูโปร่ง โล่ง สบายตา ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้านเดี่ยวมากขึ้น ซึ่งแบบคอนโดนี้จะมีทั้งแบบ 1 ห้องนอน และคอนโด 2 ห้องนอน บางโครงการจะมีการตกแต่งให้ด้านบนเป็นชั้นลอยที่ปรับเปลี่ยนเป็นห้องนอนได้ โดยจะแบ่งแยกจากห้องนั่งเล่น ห้องครัว ห้องน้ำและห้องทำงานอย่างชัดเจน ทำให้มีความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น
ข้อดีของห้องคอนโดเพดานสูง
- ดีไซน์เพดานสูง โปร่ง โล่ง สบายตา ความสูงของเพดานช่วยเพิ่มความรู้สึกไม่อึดอัด ทำให้ห้องดูกว้างขวาง และมีมิติ เหมาะมากสำหรับคนที่ชอบความรู้สึกเหมือนอยู่บ้านเดี่ยว
- มีชั้นลอยเพิ่มฟังก์ชันการใช้งาน สามารถใช้พื้นที่ชั้นลอยเป็นห้องนอน ห้องทำงาน หรือห้องแต่งตัวได้ตามต้องการ เพิ่มพื้นที่ใช้สอยโดยไม่ต้องเพิ่มขนาดห้อง
- เหมาะกับคนรักวิวและแสงธรรมชาติ หน้าต่างกระจกบานใหญ่ของคอนโดเพดานสูง ช่วยเปิดรับแสงธรรมชาติได้ดี และสามารถชมวิวเมืองหรือวิวธรรมชาติได้กว้างกว่าห้องคอนโดแบบทั่วไป
- แยกโซนชัดเจน มีความเป็นส่วนตัวสูง ด้วยการออกแบบที่แบ่งพื้นที่ต่าง ๆ อย่างชัดเจน เช่น ชั้นลอยเป็นห้องนอน ส่วนล่างเป็นพื้นที่พักผ่อนหรือรับแขก ทำให้ใช้ชีวิตได้สะดวกและไม่รบกวนกัน
- ให้ความรู้สึกหรูหราในราคาคอนโด แม้จะเป็นห้องในโครงการคอนโด แต่ด้วยดีไซน์ที่เหมือนบ้าน ละฟังก์ชันที่มากขึ้น ทำให้ห้องเพดานสูง ดูพรีเมียม เหมือนอยู่บ้านย่อม ๆ กลางเมือง
แบบห้องคอนโดเพดานสูง เหมาะกับใคร
- คนที่ต้องการอยู่อาศัยคอนโดที่ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน สำหรับใครที่ชอบความรู้สึกโปร่ง โล่ง มีพื้นที่หลายระดับแบบบ้านเดี่ยว แต่ยังอยากได้ความสะดวกของชีวิตคอนโด เช่น ทำเลใกล้รถไฟฟ้า ระบบรักษาความปลอดภัย และสิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง
- เหมาะสำหรับอยู่คนเดียว (ในกรณี 1 ห้องนอน) และครอบครัวขนาดเล็ก (2 ห้องนอน)
- ผู้ที่ต้องการพื้นที่ใช้สอยมากกว่าห้องนอน เนื่องจากห้องคอนโดเพดานสูง สามารถเปลี่ยนพื้นที่ชั้นลอย ให้เป็นห้องนอนได้ ทำให้มีพื้นที่ใช้สอยส่วนต่างๆ เพิ่มมากขึ้น
- เหมาะสำหรับคนที่อยากชมวิว เนื่องจากแบบห้องคอนโดเพดานสูง บริเวณหน้าต่างจะติดตั้งด้วยกระจกบานใหญ่ทำให้ชมวิวได้มากกว่าห้องคอนโดทั่วไป แถมยังโปร่งโล่ง เปิดรับแสงธรรมชาติได้อีกด้วย
ตัวอย่างแปลนห้องคอนโดเพดานสูง
โครงการคอนโด Origin Play Bangkhunon Triple Station

5. ห้องนอน 2 Bedroom (2 ห้องนอน)
อีกหนึ่งประเภทห้องคอนโดที่มีจำนวนไม่มากนักในแต่ละโครงการ เนื่องจากห้องมีขนาดใหญ่และมีพื้นที่ใช้สอยที่มากกว่า 50 ตารางเมตรขึ้นไป โดยพื้นที่ภายในห้องจะถูกแบ่งสัดส่วนอย่างชัดเจน ทั้งห้องนอนใหญ่ที่สามารถวางเตียงขนาด 5 – 6 ฟุตได้ และยังมีห้องนอนขนาดเล็กที่สามารถวางเตียงขนาด 3 ฟุตขึ้นไปได้ นอกจากนี้ยังมีห้องน้ำถึง 2 ห้องอีกด้วย
ข้อดีของห้องคอนโด 2 ห้องนอน
- พื้นที่กว้าง อยู่สบาย ไม่อึดอัด ห้อง 2 ห้องนอนมีขนาดใหญ่กว่าห้องแบบอื่น ๆ อย่างชัดเจน เหมาะกับการใช้ชีวิตแบบครอบครัว หรือคนที่ต้องการพื้นที่ส่วนตัวเยอะ ๆ
- แยกห้องนอนได้อย่างชัดเจน มีความเป็นส่วนตัวสูง เหมาะสำหรับคนที่อยู่กันหลายคน เช่น เพื่อนร่วมห้อง คู่รัก หรือครอบครัว เพราะสามารถแยกห้องนอนได้ ไม่รบกวนกันขณะพักผ่อนหรือทำงาน
- เหมาะกับการจัดฟังก์ชันห้องให้หลากหลาย นอกจากใช้เป็นห้องนอนทั้ง 2 ห้องแล้ว ยังสามารถดัดแปลงห้องเล็กเป็นห้องทำงาน ห้องแต่งตัว หรือห้องสำหรับเด็กเล็กได้อีกด้วย
- ทำเลดี วิวสวย เพราะมักเป็นห้องมุมของอาคาร ห้อง 2 ห้องนอนส่วนใหญ่มักอยู่บริเวณหัวมุมของอาคาร ทำให้ได้วิวแบบเปิดกว้างทั้ง 2 ด้าน แถมยังเงียบสงบกว่าห้องที่อยู่ตรงกลางอาคาร
แบบห้องคอนโด 2 ห้องนอน เหมาะกับใคร
- ผู้ที่ชื่นชอบการชมวิว เนื่องจากห้องคอนโดแบบ 2 ห้องนอน ส่วนใหญ่จะอยู่บริเวณมุมของอาคาร ทำให้สามารถเปิดรับวิวได้ทั้ง 2 ด้าน และมีความเงียบสงบมากกว่าห้องคอนโดทั่วไปด้วย
- เหมาะกับครอบครัวขนาดเล็ก หรือครอบครัวที่มีสมาชิก 3 – 4 คน และต้องการพื้นที่ใช้สอยที่แบ่งเป็นสัดส่วนและมีความเป็นส่วนตัว
- ผู้ที่ต้องการที่จอดรถประจำ เพราะในหลาย ๆ โครงการมักจะมีสิทธิพิเศษให้กับผู้ที่ซื้อห้องคอนโดแบบ 2 ห้องนอน เช่น มีที่จอดรถประจำได้ หรือได้สิทธิที่จอดรถมากกว่า 1 คัน
ตัวอย่างแปลนคอนโด 2 ห้องนอน
โครงการคอนโด The Hampton Suites Rayong
สรุปบทความ
ทั้งหมดนี้ คือแบบห้องคอนโดที่เรารวบรวมมาบอกต่อให้กับคนที่กำลังมองหาห้องคอนโดที่ตรงกับไลฟ์สไตล์ของตนเองอยู่ เพราะขนาดของห้องถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการอยู่อาศัยในระยะยาว หากเลือกแบบคอนโดที่ไม่ตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์ นอกจากจะต้องเสียค่าส่วนกลางเพิ่มแล้ว อาจทำให้คุณต้องเหนื่อยกับการทำความสะอาด และไม่สามารถอยู่อาศัยในระยะยาวได้
สำหรับใครที่กำลังมองหาคอนโดที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ มีเทคโนโลยีหรือฟังก์ชันที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตในปัจจุบัน และตั้งอยู่ท่ามกลางทำเลศักยภาพต่างๆ ทั่วกรุงเทพฯ ขอแนะนำคอนโดมิเนียมจาก ORIGIN VERTICAL ที่มีแบบห้องคอนโดให้เลือกหลายไทป์ และมีพื้นที่ส่วนกลางที่รองรับการใช้ชีวิตได้ทุกไลฟ์สไตล์ อีกทั้งการเดินทางที่สะดวกสบาย ไม่ว่าจะใช้รถยนต์หรือเดินทางด้วยรถไฟฟ้า BTS และ MRT ทำให้การเดินทางเป็นเรื่องง่าย ไม่ต้องเผื่อเวลา สามารถเข้าไปดูรายละเอียดโครงการต่างๆ เพิ่มเติมได้ที่ https://origin.co.th/โครงการพร้อมอยู่