12 เคล็ดลับเตรียมตัวกู้ซื้อบ้านหรือคอนโดให้อนุมัติง่าย ผ่านฉลุย

เตรียมตัวกู้ซื้อบ้าน คอนโด

การมีบ้านหรือคอนโดในฝันไม่ใช่เรื่องยาก แต่ขั้นตอนสำคัญอย่างการกู้ซื้อคอนโดหรือบ้านก็อาจจะทำให้ใครหลาย ๆ คนกังวลใจ ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่หัดกู้หรือคนที่เคยยื่นกู้แล้วไม่ผ่าน เพราะว่าในขั้นตอนนี้ สิ่งที่ต้องเตรียมไม่ใช่แค่เอกสาร แต่คือการวางแผนการเงินอย่างรัดกุม เพราะธนาคารจะพิจารณาความสามารถในการชำระหนี้เป็นหลัก ดังนั้น ในบทความนี้ Origin Vertical จึงได้รวบรวม 12 เคล็ดลับที่จะช่วยให้การยื่นขอสินเชื่อกู้เงินซื้อบ้านและคอนโดของคุณราบรื่น พร้อมเพิ่มโอกาสในการอนุมัติเร็วขึ้น ถ้าอยากรู้ว่าควรเริ่มต้นเตรียมตัวอย่างไร หรือกู้เงินซื้อบ้านธนาคารไหนดีที่สุด เรามีคำตอบ! 

12 เคล็ดลับเตรียมตัวกู้ซื้อบ้านหรือคอนโด 

การเตรียมตัวที่ดีคือหัวใจสำคัญของการอนุมัติสินเชื่อ เพราะการกู้ซื้อบ้านหรือคอนโดนั้น เงินเดือนที่คุณได้รับจะต้องสอดคล้องกับภาระหนี้ที่เพิ่มขึ้น เพราะฉะนั้น หากทำตามขั้นตอนเหล่านี้ก็จะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับคุณในสายตาของธนาคารได้   

วางแผนการเงินก่อนซื้อคอนโด

1. ตรวจสอบเครดิตบูโรก่อนยื่นกู้ 

ก่อนที่คุณจะยื่นเรื่องขอสินเชื่อกับธนาคาร สิ่งแรกที่ต้องทำคือการตรวจสอบรายงานข้อมูลเครดิต หรือที่เรียกว่าเครดิตบูโร (Credit Bureau) เพื่อดูประวัติการชำระหนี้ทั้งหมดของคุณ ทั้งนี้ หากพบว่ามีประวัติค้างชำระ หรือมีสถานะบัญชีที่ติดเครื่องหมายไม่ดี เช่น ค้างชำระหนี้เกินกว่า 90 วัน หรือมีประวัติชำระไม่ดี ให้รีบแก้ไขก่อนยื่นกู้   

2. วางแผนเงินเดือนและรายจ่ายให้ชัดเจน 

เนื่องจากเป็นการขอวงเงินเพื่อซื้อคอนโด แน่นอนว่า ธนาคารจะพิจารณาจากรายได้ต่อเดือนและรายจ่ายของคุณ เพื่อคำนวณความสามารถในการผ่อนชำระหนี้ต่อเดือน เพื่อให้การพิจารณาอนุมัติสินเชื่อเป็นไปอย่างราบรื่นในขั้นตอนนี้ หากคุณมีแพลนอยากจะซื้อคอนโดใหม่ บ้านใหม่ แนะนำให้ทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายอย่างละเอียดตั้งแต่เนิ่น ๆ โดยแสดงให้ธนาคารผู้ให้กู้เห็นว่า มีเงินเหลือเพียงพอต่อการผ่อนชำระค่างวดบ้านในแต่ละเดือน รวมถึงรายจ่ายประจำอื่น ๆ ด้วย  

3. เคลียร์หนี้สินระยะสั้นและหนี้ที่ไม่จำเป็น 

อย่างไรก็ตาม การมีหนี้สินมากเกินไปจะลดโอกาสในการอนุมัติสินเชื่อของคุณลงอย่างมาก ก่อนจะยื่นกู้ซื้อคอนโดหรือบ้าน ควรเคลียร์หนี้สินที่ไม่จำเป็นออกไปให้หมด เช่น หนี้บัตรเครดิต หนี้สินเชื่อส่วนบุคคลหรือหนี้ผ่อนสินค้า เพื่อลดภาระหนี้รวมให้เหลือน้อยที่สุดก่อนยื่นกู้   

4. เลือกทำเลบ้านหรือคอนโดที่เหมาะสม 

ทำเลของอสังหาริมทรัพย์ที่คุณต้องการซื้อก็มีความสำคัญ เพราะมีผลต่อการประเมินราคาและโอกาสในการขายต่อในอนาคต หากคุณต้องการซื้ออสังหาริมทรัพย์ในทำเลที่ธนาคารประเมินว่ามีความเสี่ยงต่ำ เช่น โครงการที่น่าเชื่อถือหรือใกล้แหล่งชุมชน จะช่วยเพิ่มโอกาสในการอนุมัติสินเชื่อได้เร็วขึ้น 

5. ออมเงินสำหรับดาวน์บ้าน 

แม้ว่าบางสินเชื่อจะให้วงเงินกู้สูงก็จริง แต่การวางเงินดาวน์ที่สูงไปตั้งแต่แรก ก็จะช่วยลดความเสี่ยงของธนาคาร และทำให้คุณได้รับอัตราดอกเบี้ยที่น่าสนใจมากขึ้น เพราะฉะนั้นการเก็บออมเงินอย่างสม่ำเสมอ และจัดสรรให้เป็นเงินก้อนสำหรับดาวน์บ้านหรือคอนโดหลังใหม่ ก็เป็นอีกหนึ่งในวินัยทางการเงินทีดีเช่นกัน 

6. ปรับปรุงประวัติการเงินให้ดูดี 

ในช่วง 1 – 2 ปีก่อนยื่นกู้ ควรบริหารจัดการเงินอย่างมีวินัย เช่น การฝากเงินเข้าบัญชีอย่างสม่ำเสมอ หรือการมีเงินออมในบัญชีเป็นระยะเวลานาน เนื่องจากสิ่งเหล่านี้นี่แหละ ที่จะกลายเป็นหลักฐานสำคัญที่แสดงให้ธนาคารเห็นว่าคุณมีความมั่นคงทางการเงิน  

7. เตรียมเอกสารทางการเงินครบถ้วน 

ความไม่พร้อมของเอกสารเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้การอนุมัติล่าช้า ควรเตรียมเอกสารทั้งหมดที่ธนาคารต้องการให้ครบถ้วนและเป็นปัจจุบัน รวมถึงเอกสารแสดงรายได้ เช่น สลิปเงินเดือน หนังสือรับรองเงินเดือน รายการเดินบัญชีย้อนหลัง (Statement) และเอกสารแสดงภาระหนี้สิน หากเตรียมครบพร้อมและยื่นขอวงเงินไป ก็จะได้รับการอนุมัติที่ไวขึ้น 

8. เปรียบเทียบและศึกษาเงื่อนไขสินเชื่อของแต่ละธนาคาร 

อย่างไรก็ตาม แต่ละธนาคารมักจะมีนโยบายและเงื่อนไขการให้สินเชื่อที่แตกต่างกัน เพราะฉะนั้น ก่อนตัดสินใจขอสินเชื่อ ควรศึกษาข้อมูล พร้อมทั้งเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยคอนโดและข้อเสนอต่าง ๆ อย่างละเอียด และพิจารณาว่ากู้ซื้อบ้านที่ธนาคารไหนดี ถึงจะเหมาะสมที่สุดกับสภาพคล่องทางการเงินของคุณ    

9. หาผู้กู้ร่วมที่มีคุณสมบัติเหมาะสม 

หากรายได้ของคุณยังไม่เพียงพอต่อการขอสินเชื่อ การหาผู้กู้ร่วมที่มีคุณสมบัติทางการเงินที่ดี เช่น มีรายได้มั่นคง ไม่มีประวัติเสียในเครดิตบูโรก็เป็นทางเลือกที่ดี เพราะการกู้ร่วมซื้อคอนโด ถือเป็นอีกเทคนิคที่จะช่วยเพิ่มความสามารถในการกู้รวม ทำให้วงเงินที่คุณได้รับสูงขึ้นนั่นเอง  

10. วางแผนการชำระหนี้ให้แต่ละเดือน 

หลังจากที่ตัดสินใจแล้วว่า จะซื้อคอนโดในโลเคชั่นไหน ก็ถึงขั้นตอนการคำนวณวงเงิน และวางแผนผ่อนชำระให้เหมาะสม อ้างอิงข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) โดยทั่วไป ค่างวดผ่อนบ้านไม่ควรเกิน 30 – 40% ของรายได้ต่อเดือน ทั้งนี้ก็เพื่อให้คุณยังคงมีเงินเหลือสำหรับค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ในชีวิตประจำวันอีกนั่นเอง 

11. วางแผนสำรองเงินเผื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน 

ถึงแม้จะขอวงเงินกู้ซื้อได้สำเร็จ แต่แน่นอนว่า เหตุฉุกเฉินสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา และสามารถเกิดขึ้นได้โดยที่คุณไม่ทันได้ตั้งตัว เพราะฉะนั้น ควรมีเงินสำรองฉุกเฉินอย่างน้อย 3 – 6 เท่าของรายได้ต่อเดือน เพื่อรับมือกับเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เช่น การตกงาน หรือการเจ็บป่วยไว้ด้วย จะได้ไม่ตึงมือมากจนเกินไป หากต้องผ่อนคอนโด และต้องใช้ในเรื่องที่จำเป็นไปด้วย 

12. จ่ายหนี้ให้ตรงเวลาเสมอ 

สำหรับเทคนิคสุดท้าย คือประวัติการชำระหนี้ที่ดี ไม่ว่าจะเป็นหนี้ผ่อนรถ บัตรเครดิตหรือสินเชื่ออื่น ๆ ต้องมั่นใจว่าได้ชำระเงินตรงตามกำหนดเวลาทุกครั้ง ต้องบอกก่อนเลยว่า หากคุณมีประวัติค้างชำระเพียงเล็กน้อยก็อาจส่งผลกระทบต่อการพิจารณาสินเชื่อกู้ซื้อบ้านได้เช่นกัน  

จ่ายหนี้ตรงเวลา

การเตรียมตัวก่อนกู้ซื้อบ้านให้ดีตาม 12 เทคนิคที่ Origin Vertical นำมาฝากกันในบทความนี้ จะช่วยเพิ่มโอกาสในการอนุมัติสินเชื่อให้เป็นไปอย่างราบรื่นและได้วงเงินที่เหมาะสมได้ แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือการทำความเข้าใจเงื่อนไขของธนาคาร และการวางแผนทางการเงินที่รัดกุม หากคุณทำตามเคล็ดลับเหล่านี้ได้ การได้เป็นเจ้าของบ้านหรือคอนโดในฝันก็อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมแล้วแน่นอน 

ORIGIN VERTICAL คอนโดมิเนียมที่ตอบโจทย์ทุกการใช้ชีวิต ในแบบที่คุณต้องการ 

ยกระดับการใช้ชีวิตในแบบที่เป็นคุณ ด้วยคอนโดมิเนียมดีไซน์ทันสมัยบนทำเลศักยภาพ เชื่อมต่อทุกจุดหมายได้สะดวก พร้อมพื้นที่ส่วนกลางที่ออกแบบมาเพื่อเติมเต็มไลฟ์สไตล์อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นการพักผ่อน ทำงานหรือใช้เวลากับตัวเอง ทุกฟังก์ชันถูกคิดมาเพื่อตอบโจทย์ชีวิตเมืองในทุกมิติ เพื่อให้ ”คุณ” ค้นพบความสุขแท้จริง 

Origin… Creative Living For ALL

สำหรับใครที่กำลังมองหาโครงการที่มีความน่าเชื่อถือ มีคุณภาพและตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพ เราขอแนะนำคอนโดมิเนียมจาก Origin โดยสามารถเข้าไปดูข้อมูลโครงการ รวมถึงทำเลที่ตั้งของโครงการต่าง ๆ ได้ที่ https://origin.co.th/โครงการพร้อมอยู่   

 

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

กู้ซื้อบ้าน กู้ซื้อคอนโดต้องมีเงินเดือนเท่าไรถึงผ่าน?

อย่างไรก็ตาม วงเงินที่อนุมัติไม่ได้ขึ้นอยู่กับเงินเดือนเพียงอย่างเดียว แต่ขึ้นอยู่กับความสามารถในการผ่อนชำระหนี้ ซึ่งโดยทั่วไปธนาคารจะกำหนดให้ค่างวดผ่อนต่อเดือนไม่ควรเกิน 40% ของรายได้ต่อเดือน หากต้องการทราบว่าควรมีรายได้เท่าไหร่ ให้คำนวณย้อนกลับจากค่างวดที่คุณต้องการผ่อน หรือสามารถสอบถามรายละเอียดกับธนาคารได้โดยตรง  

ได้ แต่ภาระหนี้บัตรเครดิตจะถูกนำไปคำนวณในภาระหนี้รวมทั้งหมดของคุณ (DSR) หากภาระหนี้รวมกับค่างวดบ้านใหม่แล้วยังไม่เกินเกณฑ์ที่ธนาคารกำหนด หรือไม่เกิน 50% ของรายได้ ก็มีโอกาสได้รับการอนุมัติ แต่ถ้าภาระหนี้เดิมสูงมาก ควรเคลียร์บัตรเครดิตบางส่วนก่อนยื่นกู้   

จริง การวางเงินดาวน์ที่สูงขึ้น ถือเป็นการแสดงให้ธนาคารเห็นว่าคุณมีความพร้อมทางการเงินและลดความเสี่ยงของธนาคารลง ซึ่งมีส่วนช่วยให้การพิจารณาสินเชื่อกู้เงินซื้อบ้านเป็นไปได้ง่ายและรวดเร็วขึ้นยิ่งขึ้น รวมถึงอาจทำให้คุณได้รับอัตราดอกเบี้ยที่พิเศษกว่าการกู้เต็มวงเงินอีกด้วย  

แท็กที่เกี่ยวข้อง