การบริหารจัดการคู่ค้า (GRI 204-1)
บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ให้ความสำคัญในการบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทานไม่เพียงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน หรือป้องกันผลกระทบ หรือชื่อเสียงขององค์กร แต่เพื่อเพิ่มความโปร่งใส คู่ค้าจึงเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่มีบทบาทสำคัญต่อการดำเนินงานของบริษัทฯ อย่างยั่งยืน ดังนั้นการบริหารจัดการคู่ค้าเพื่อให้สามารถส่งมอบสินค้าและบริการที่มีคุณภาพยึดหลักการดำเนินงานตามหลักธรรมาภิบาล ควบคู่ไปกับการมีความรับผิดชอบต่อเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม (ESG) ถือเป็นการเสริมสร้างโอกาสทางธุรกิจและสามารถบริการจัดการความเสี่ยงในระบบห่วงโซ่อุปทานเพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างต่อเนื่อง
ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2564 บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ได้กำหนดจรรยาบรรณคู่ธุรกิจ (Supplier Code of Conduct) โดยมุ่งหวังให้คู่ค้านำไปปรับใช้เป็นแนวทางการดำเนินงานให้สอดคล้องกับการดำเนินงานตามบริบทคู่ค้า โดยคำนึงถึงการดำเนินธุรกิจที่มีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล เพื่อสร้างความยั่งยืนในการดำเนินธุรกิจร่วมกัน https://investor.origin.co.th/storage/download/company-policies/company-document/20230118-ori-suppliers-code-of-conduct-th.pdf
กระบวนการดำเนินงานเพื่อความยั่งยืน
บริษัทฯได้กำหนดแนวทางการบริหารจัดการคู่ค้าอย่างยั่งยืน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการดำเนินการ โดยประยุกต์ใช้ในกิจกรรมภายในของบริษัทฯ เพื่อส่งเสริมการบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทานอย่างยั่งยืน ช่วยเพิ่มโอกาสลดความเสี่ยงและเป็นการยกระดับความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจ โดยมีการกำหนดกระบวนการดำเนินการบริหารจัดการคู่ค้าอย่างยั่งยืน ดังนี้
1.กระบวนการสรรหาและคัดเลือกคู่ค้า คู่ค้าต้องผ่านการพิจารณาคัดเลือกจากเกณฑ์คุณสมบัติเบื้องต้นที่ทางบริษัทฯ กำหนดขึ้น เช่น คุณภาพสินค้า ชื่อเสียง ความเชี่ยวชาญในการดำเนินงาน ประสบการณ์ทำงาน สถานะความมั่นคงทางการเงิน
2.การขึ้นทะเบียนคู่ค้าใหม่ คู่ค้ารายใหม่จะต้องทำแบบประเมินตนเอง โดยการประเมินคู่ค้าจะครอบคลุมทั้งความเสี่ยงคู่ค้าด้าน ESG ด้านคุณภาพ และการดำเนินงานภายใต้ความรับผิดชอบต่อเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม และต้องรับทราบจรรยาบรรณคู่ธุรกิจ (Supplier Code of Conduct)
3.การประเมินผลสำหรับคู่ค้ารายปัจจุบัน บริษัทฯมุ่งพัฒนาธุรกิจให้เติบโตควบคู่ไปร่วมกันกับคู่ค้า โดยมีการกำหนดมาตรฐานการปฏิบัติงาน ประเมินผลงานคู่ค้าและความเสี่ยงทุก ๆ 6 เดือน และการคัดกรองคู่ค้า เพื่อนำไปพัฒนาศักยภาพสินค้าและบริการที่มีคุณภาพมอบให้แก่ลูกค้าได้อย่างยั่งยืน โดยพิจารณาจากคุณภาพของสินค้า การจัดส่งสินค้าและการส่งมอบงาน และความพึงพอใจ โดยบริษัทฯ จะทำการติดตามและประเมินผลการดำเนินงานของคู่ค้าประจำปี รวมทั้งกำหนดแนวทางปฏิบัติในการประเมินคู่ค้าทั้งก่อนและภายหลังการซื้อขาย ให้สามารถวัดผลและจัดเกรดคู่ค้าในแต่ละหมวดหมู่ได้ โดยกำหนดให้ฝ่ายจัดซื้อจัดจ้างเป็นผู้ประเมินศักยภาพคู่ค้าก่อนการซื้อขายเพื่อคัดกรองคู่ค้าที่มีผลการประเมินต่ำกว่าเกณฑ์ออกจาก Approved Vendor List
โดยเกณฑ์การให้คะแนนและผลการประเมินในปี 2567 สรุปได้ดังนี้
เกณฑ์คะแนนที่ได้ |
ผลการประเมินปี 2567 |
เกรด A ได้คะแนนช่วง 80-100 คะแนน
คู่ค้าชั้นดี เป็นคู่ค้าที่บริษัทฯ จะดำเนินการซื้อ-ขายด้วยเป็นกลุ่มแรก |
50 ราย |
เกรด B ได้คะแนนช่วง 70-79 คะแนน |
184 ราย |
เกรด C ได้คะแนนช่วง 60-69 คะแนน |
69 ราย |
เกรด D ได้คะแนนช่วง 50-59 คะแนน |
10 ราย |
เกรด F ได้คะแนนต่ำกว่า 50 คะแนน
นำเสนอคณะกรรมการจัดซื้อจัดจ้าง เพื่อขอตัดออกจาก AVL |
4 ราย |
4.การจำแนกประเภทคู่ค้า บริษัทฯได้มีการทบทวนและจำแนกประเภทคู่ค้าหลัก (Critical Tier1 Supplier) และการจัดหมวดคู่ค้าที่จัดหาสินค้าและงานบริการให้กับคู่ค้าหลัก (Critical Non-Tier 1 Supplier) โดยมีเงื่อนไขดังนี้
กลุ่มคู่ค้าหลัก |
เงื่อนไข |
Critical Tier 1 Supplier |
-มูลค่าสั่งซื้อสะสมสูงสุด 80%
-เป็นส่วนประกอบหลักมีความสำคัญสูงในการพัฒนาโครงการ
-คู่ค้าหลักของบริษัท |
Critical Non-Tier 1 Supplier |
-เป็นส่วนประกอบหลักมีความสำคัญสูงในการพัฒนาโครงการ
– ขนาดของกิจการ ขนาด L
-คู่ค้าหลักของบริษัท |
โดยในปีนี้ สามารถสรุปผลการดำเนินงานด้านการจัดซื้อจัดจ้างได้ดังนี้
การดำเนินการ |
ผลการดำเนินการปี 2567 |
จำนวนคู่ค้าทั้งหมด (มูลค่าการสั่งซื้อ) |
1,200 ราย (4,495,729,729 บาท) |
จำนวนคู่ค้ารายสำคัญ Critical Tier 1 (มูลค่าการสั่งซื้อ) |
14 ราย (2,926,733,721 บาท) |
คู่ค้ารายใหม่ได้รับการตรวจประเมินก่อนการซื้อขายด้วยปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และหลักธรรมาภิบาล (ESG) |
100.00% |
คู่ค้ารายใหม่ต้องรับทราบจรรยาบรรณคู่ธุรกิจ (Supplier Code of Conduct) ก่อนดำเนินการขึ้นทะเบียนในระบบ |
100.00% |
On site Survey คู่ค้ารายสำคัญ |
14 ราย (จำนวนทั้งหมด 14 ราย) |
คู่ค้าดำเนินธุรกิจด้วยความซื่อสัตย์สุจริตและความเป็นธรรมทางธุรกิจ |
100% |
คู่ค้าดำเนินธุรกิจโดยให้ความสำคัญด้านคุณภาพของผลิตภัณฑ์และบริการ |
100% |
คู่ค้าดำเนินธุรกิจโดยให้ความสำคัญด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัย |
100% |
คู่ค้าดำเนินการด้านการรักษาสิ่งแวดล้อม |
91% |
คู่ค้าให้ความสำคัญในการคุ้มครองข้อมูลและทรัพย์สินทางปัญญา |
100% |
คู่ค้าให้ความสำคัญในการคุ้มครองแรงงานและสิทธิมนุษยชน ไม่เลือกปฏิบัติเคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ |
100% |
คู่ค้าดำเนินการโดยให้ความสำคัญในการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน |
100% |
ผลการประเมินความเสี่ยงด้าน ESG ลูกค้าปัจจุบัน |
ไม่พบความเสี่ยง |
ทั้งนี้ บริษัทฯ มีเป้าหมายการดำเนินการ On-site ESG Audit คู่ค้ารายสำคัญของบริษัทให้ได้ ร้อยละ ร้อย ของผู้ค้ากลุ่ม Critical Tier 1 ซึ่งมีทั้งหมด 14 ราย ซึ่งตรงตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ และในปี 2568 มีเป้าหมายในการ audit คู่ค้าใน Tier 1 ครบ 100% โดยจากการOn-site ESG Audit คู่ค้ารายสำคัญ คู่ค้าของบริษัท ฯ ได้ร่วมแสดงพลังแห่งความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ด้วยการปฏิบัติตามมาตรฐานที่เรากำหนดได้ครบถ้วนทุกประการ ไม่ว่าจะเป็นการดำเนินธุรกิจด้วย ความซื่อสัตย์สุจริต โปร่งใส และยึดมั่นในความเป็นธรรม การส่งมอบสินค้าและบริการที่ได้คุณภาพตรงตามมาตรฐานที่วางไว้ ตลอดจนการดูแลความปลอดภัยและสวัสดิภาพของแรงงานอย่างรอบด้านและยังแสดงให้เห็นถึงความตระหนักใน คุณค่าของสิทธิมนุษยชนและความเท่าเทียม โดยไม่เลือกปฏิบัติ เคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของทุกคน พร้อมทั้งให้ความสำคัญกับการสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ปลอดภัย เป็นธรรม และเกื้อหนุนต่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน อีกทั้งยังยึดมั่นในเจตนารมณ์การ ต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน อย่างเด็ดขาด
ผลการปฏิบัติที่ครบถ้วนสมบูรณ์นี้ เป็นมากกว่าตัวเลข 100% แต่คือ เครื่องยืนยันถึงความร่วมมือที่แข็งแกร่งระหว่างบริษัทและคู่ค้า ในการสร้างห่วงโซ่อุปทานที่โปร่งใส เชื่อถือได้ และก้าวไปสู่อนาคตแห่งความยั่งยืนร่วมกัน
และในปี 2567 ทางบริษัทฯ ได้มีการทำแบบสอบถามเพื่อประเมินความเสี่ยงด้าน ESG กับคู่ค้า พบว่า
“ไม่มีความเสี่ยงด้าน ESG ที่เกิดจากคู่ค้า” ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และบรรษัทภิบาล (ESG Risk) ที่เกิดจากคู่ค้า และในส่วนของ 3 ปีย้อนหลัง (พ.ศ. 2565 – พ.ศ. 2567)
การดำเนินการ |
ผลการดำเนินการปี 2565-2567 |
จำนวนคู่ค้ารายสำคัญ Critical Tier 1 (มูลค่าการสั่งซื้อ) |
30 ราย |
นอกจากนี้ บริษัทมีการกำหนดเกณฑ์ในการชำระเงินสินเชื่อการค้า หรือ Credit Term ภายในระยะเวลา 15-60 วัน ขึ้นอยู่กับประเภทของคู่ค้า เช่นผู้รับเหมารายย่อย ได้รับ 15 วัน คู่ค้าสำหรับสินค้าหรือ อุปกรณ์อื่น ๆได้รับ 30 วัน ที่ผ่านมาบริษัทดำเนินการชำระเงินให้แก่คู่ค้าเฉลี่ยอยู่ที่ 15-45 วัน
ตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา บริษัทได้ยืนหยัดดำเนินการประเมินคู่ค้าอย่างต่อเนื่องภายใต้กรอบ
สิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) ซึ่งผลลัพธ์ที่ปรากฏสะท้อนให้เห็นถึงความร่วมมืออันแข็งแกร่งและความมุ่งมั่นร่วมกันระหว่างบริษัทและคู่ค้าในการรักษามาตรฐานการดำเนินธุรกิจอย่างโปร่งใส มีจริยธรรม และเป็นไปเพื่อความยั่งยืน
ในทุกปี คู่ค้าใหม่ทุกรายได้รับการตรวจสอบอย่างครบถ้วน พร้อมทั้งยอมรับ
จรรยาบรรณคู่ค้า (Supplier Code of Conduct) ก่อนเริ่มต้นความสัมพันธ์ทางธุรกิจ ขณะที่คู่ค้าสำคัญก็ได้รับการตรวจสอบภาคสนามอย่างสม่ำเสมอ เพื่อสร้างความมั่นใจว่าการดำเนินงานตลอดห่วงโซ่อุปทานยังคงยึดมั่นในหลักธรรมาภิบาลและความโปร่งใส ผลการประเมินในประเด็นสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นความซื่อสัตย์สุจริต คุณภาพของสินค้าและบริการ ความปลอดภัยและอาชีวอนามัย การเคารพสิทธิมนุษยชน และการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน ยังคงอยู่ในระดับ
ร้อยเปอร์เซ็นต์อย่างต่อเนื่องตลอดสามปี
แม้ในด้านการปฏิบัติตามข้อกฎหมายสิ่งแวดล้อมจะยังมีบางส่วนที่อยู่ระหว่างการปรับปรุง โดยผลการประเมินล่าสุดอยู่ที่ 91% แต่บริษัทได้ดำเนินการติดตามและวางแนวทางพัฒนาอย่างจริงจัง เพื่อให้คู่ค้าทุกฝ่ายสามารถปฏิบัติได้ครบถ้วนในอนาคตอันใกล้
ผลการดำเนินงานที่สม่ำเสมอเช่นนี้ ไม่เพียงตอกย้ำถึงความเข้มแข็งของระบบการกำกับดูแลห่วงโซ่อุปทาน แต่ยังสะท้อนถึง ความเชื่อมั่น ความไว้วางใจ และพันธกิจร่วมกัน ที่บริษัทและคู่ค้าได้ร่วมสร้างขึ้น เพื่อก้าวไปสู่การเติบโตที่ยั่งยืนและสร้างคุณค่าให้แก่สังคม สิ่งแวดล้อม และผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย